眼下垂和眼型不均:会造成哪些负面影响?如何在不进行手术的情况下矫正?

ตาปรือหรือตาไม่เท่ากัน เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ และยังอาจส่งผลต่อการมองเห็นในชีวิตประจำวันได้ด้วย สาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยคือ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งทำให้เปลือกตาตกหรือเปิดตาได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ดวงตาดูไม่สดใส เหมือนง่วงนอนตลอดเวลา หลายคนคิดว่าต้องผ่าตัดเท่านั้นถึงจะแก้ไขได้ แต่จริง ๆ แล้วปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยปรับแก้ให้ตาดูสดใสและสมดุลขึ้นโดยไม่ต้องเจ็บตัว บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงผลเสียของตาปรือ ตาไม่เท่ากัน และแนวทางการแก้ไขที่ทำได้ง่ายและปลอดภัย

目录

อาการ ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน

ตาปรือ (Ptosis) คือ ลักษณะอาการที่เปลือกตาบนตกลงมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดการปิดทับตาดำบางส่วน ส่งผลให้การมองเห็นลดลง และอาจทำให้เกิดความไม่สบายตา โดยอาการที่มักพบเห็น เช่น หนังตาตกลงมาข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง ทำให้ดูเหมือนง่วง หรือดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา ถ้าเคสที่เป็นข้างเดียว ก็จะทำให้แลดู ตาไม่เท่ากัน ข้างนึงโตปกติ อีกข้างเล็ก เป็นต้น

ที่สำคัญผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าผากช่วยยกคิ้ว หรือเงยหน้าเพื่อทำให้มองเห็นชัดขึ้น รวมถึงอาจทำให้การมองเห็นแคบลง มองไม่ชัด หรือมองเห็นภาพซ้อน โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้สายตาเป็นเวลานาน

ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน ส่งผลเสียอะไร

เมื่อหนังตาตกลงมามากเกินไป จะทำให้เกิดการบดบังดวงตา ทำให้ภาพการมองเห็น หรือต้องเงยหน้า เลิกคิ้ว เพื่อช่วยในการมองเห็น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณหน้าผาก หรือปวดหัว และแรงกดทับจากเปลือกตา หรือหนังตาที่เกิดการหย่อนคล้อย จะส่งผลต่อรูปทรงดวงตา ทำให้สายตาเอียงได้ นอกจากด้านการมองเห็นแล้ว ความสวยงามทางด้านรูปลักษณ์ก็ส่งผลเช่นกัน โดยส่งผลให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง โดยเฉพาะเวลาพบปะผู้คน และเสียบุคลิกภาพ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อหน้าที่งานที่จำเป็นต้องใช้หน้าตา และต้องการความน่าเชื่อถือ เช่น พนักงานขาย พนักงานต้อนรับ นักร้อง และนักแสดง เป็นต้น

แต่ถ้าสำหรับศาสตร์ของ面部面相学ที่ดี ตาควรจะมีลักษณะที่กลมโต ได้รูปเท่ากันทั้งสองข้าง ตาขาวควรมีสีขาวสะอาด ไม่มีรอยแดง หรือรอยดำ รวมถึงหางตาควรยกขึ้นเล็กน้อย ซึ่งหากเกิดกรณีตาปรือ ตาไม่เท่ากัน ตามศาสตร์บอกบ่งบอกว่า เป็นคนที่ไม่กระตือรือร้น ไม่มีเสน่ห์ ขาดพลังชีวิต เป็นคนสองจิตสองใจ ไม่เด็ดขาด มีจิตใจโลเล และอาจทำให้โอกาสดี ๆ ในชีวิตผ่านเลยไปง่าย ๆ  รวมถึงอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด เช่นความรักอาจไม่ราบรื่น เป็นต้น

สาเหตุของ ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน

อย่างที่ทราบ ตาปรือ เป็นภาวะที่เปลือกตาตกลงมาเกินกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้เกิดการปิดทับตาดำบางส่วน หรือทั้งหมด ทำให้การมองเห็นลดลง และทำให้เกิดความไม่สบายตา ส่วนตาไม่เท่ากัน เป็นความแตกต่างของขนาดเปลือกตา ระดับหนังตา หรือขนาดของลูกตาทั้งสองข้างที่ไม่สมส่วน ซึ่งจะเกิดร่วมกับตาปรือ ซึ่งทั้งตาปรือ ตาไม่เท่ากัน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • พันธุกรรม และภาวะตั้งแต่กำเนิด เป็นการถ่ายทอดลักษณะบางอย่างผ่านทางพันธุกรรม จากรุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูก เช่น ถ้าพ่อแม่มีตาไม่เท่ากัน ลูกก็อาจมีลักษณะที่ไม่เท่ากันได้ หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม อย่างกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิด
  • 年龄 เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น คอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนังจะมีการผลิตน้อยลง ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเกิดการหย่อนคล้อย ทำให้หนังตา หรือเปลือกตาตกลงมาได้ รวมถึงหากกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ช่วยยกหนังตาเกิดการอ่อนแรงลง ก็จะทำให้หนังตาตกลงมาได้
  • กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตา หรือรักษาความตึงของหนังตา ซึ่งอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากการเสื่อมสภาพตามวัย ส่งผลให้เกิดอาการตาปรือ ตาไม่เท่ากัน
  • 眼眶内组织、脂肪或骨骼损失 เมื่อคนเราอายุเพิ่มมากขึ้นเนื้อเยื่อ ไขมัน และกระดูกเบ้าตา ที่ทำหน้าที่ในการรองรับ และพยุงโครงสร้างรอบดวงตาจะเกิดการฝ่อตัวลง หรือหายไป ส่งผลให้ผิวหนัง เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่รองรับขาดความหนาแน่น หรือเกิดการยุบตัวลง ทำให้เปลือกตาเกิดตกลงมา
  • 某些疾病 例如肌肉无力、神经系统疾病、脑血管病、脑肿瘤等都会影响眼周肌肉的功能,造成眼睑下垂。
  • 阳光 อย่างที่ทราบรังสียูวีที่อยู่ในแดด จะคอยทำร้ายคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังตรงหนังตาเกิดความหย่อนคล้อย และเมื่อเปลือกตาหย่อนคล้อยลงมามาจะเกิดภาวะหนังตาตก ซี่งจะมีลักษณะคล้ายกับอาการตาปรือ และหากความหย่อนคล้อยของเปลือกตาเกิดขึ้นไม่เท่ากันทั้งสองข้าง ก็จะส่งผลให้เกิดอาการตาไม่เท่ากัน
  • 频繁剧烈揉眼 会导致眼睑周围的皮肤受到刺激和发炎,导致皮肤失去弹性,导致眼睑下垂。
  • 隐形眼镜佩戴不当 จะทำให้ผิวหนังบริเวณหนังตาถูกดึงรั้ง และผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อย ส่งผลให้หนังตาตก
  • 长时间盯着屏幕 จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาเกิดการเมื่อยล้า และมีการทำงานหนัก ส่งผลให้เกิดอาการตาปรือชั่วคราวได้
  • 眼部周围意外 影响控制眼睑的肌肉和神经的严重损伤。
  • 手术引起的并发症 例如,眼科手术可能会影响睁开眼睛的肌肉。

วิธีแก้ไข ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

ฉีดฟิลเลอร์เปลือกตา

การฉีดฟิลเลอร์เปลืองตา เป็นการรักษาด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าตรงบริเวณเปลือกตาบน โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่างที่มีสาเหตุจากการยุบตัวของไขมัน และเนื้อเยื่อ ทำให้เบ้าตาดูเต็มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยพยุงผิวหนังตรงบริเวณเปลือกตาที่เกิดการหย่อนคล้อยให้เกิดการยกกระชับ ทำให้หนังตาที่ตกดูดีขึ้น และทำให้เห็นชั้นตาชัดเจน รวมถึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาดูเต่งตึง และมีความเรียบเนียนขึ้น

ฉีดโบท็อกซ์เปลือกตา

เป็นการรักษาด้วยการฉีด Botulinum Toxin Type A เข้าตรงบริเวณเปลือกตา โดยโบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงหนังตาลงมา ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว  กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกหนังตาก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้หนังตาที่ตกลงมาถูกยกขึ้นตาม

埋线提升

เป็นการรักษาด้วยการใช้เทคนิค Foxy Eyes Thread Lift ที่จะทำการร้อยไหมให้เป็นโครงตาข่าย โดยร้อยเข้าตรงบริเวณหางตาที่ตกลงมาให้ยกขึ้นไปบริเวณเหนือหางตา ซึ่งเงี่ยงไหมจะเข้าไปเกี่ยวกับผิวให้ยกขึ้น ส่งผลให้ดวงตามีความเฉี่ยว มีความคมขึ้น และทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์ รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับหนังตาตก

超声刀

เป็นการรักษาด้วยการใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ยิงลงลึกถึงชั้น SMAS ของผิวหนัง โดย Ulthera จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และทำให้เส้นใยคอลลาเจนเกิดการหดตัว ส่งผลให้เปลือกตาเกิดการยกกระชับขึ้น ทำให้ดวงตาดูสดใส และทำให้ดวงตาดูกลมโต

วิธีแก้ไขแบบธรรมชาติ

  • การบริหารกล้ามเนื้อตา เช่นท่าเบิกตากว้าง โดยการเบิกตาให้กว้างมากที่สุด ทำค้างไว้ประมาณ 5 – 10 วินาที แล้วหลับตาให้สนิท ทำซ้ำ 5 – 10 ครั้ง หรือท่าเลิกคิ้ว ด้วยการวางนิ้วชี้ทั้งสองข้างไว้ใต้คิ้ว แล้วดันนิ้วขึ้นให้ชนกับโหนกคิ้ว จากนั้นค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ จะทำให้รู้สึกถึงแรงต้านจากนิ้ว ทำค้างไว้ 3 – 5 วินาที แล้วทำซ้ำ 5 ครั้ง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการลืมตา รวมถึงช่วยให้หนังตามีความกระชับขึ้น
  • การนวดคลึงเบา ๆ และการกดจุดบริเวณรอบดวงตา โดยการนวดวันละ 2 – 3 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และน้ำเหลือง ส่งผลให้ลดอาการบวม และทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาผ่อนคลาย
  • การประคบร้อน และประคบเย็นสลับกัน โดยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน วางลงบนดวงตาประมาณ 30 วินาที จากนั้นตามด้วยผ้าชุบน้ำเย็นประมาณ 30 วินาที สลับกันแบบนี้ 3 รอบ วันละ 1 – 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณรอบดวงตา และช่วยคลายกล้ามเนื้อตา
  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และอาหารที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งจะช่วยบำรุงดวงตา และช่วยชะลอความเสื่อมของผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อ 
  • การแต่งหน้า สามารถช่วยอำพรางตาที่ไม่เท่ากัน เช่นการเขียนอายไลเนอร์ หรือการติดขนตาปลอม เพื่อสร้างความสมดุลให้กับดวงตาทั้งสองข้าง
  • การใช้คอนแทคเลนส์แบบพิเศษ (Ptosis Crutch) เป็นคอนแทคเลนส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยพยุงเปลือกตาบนขึ้นเล็กน้อย