หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หลายคนอาจรู้สึกว่าบริเวณที่ฉีดมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วง 2-3 วันแรก อาการบวมมักจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองเมื่อร่างกายปรับตัว แต่บางคนอาจกังวลว่าอันตรายไหม หรือจะดูแลยังไงให้หายบวมเร็ว การเข้าใจวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้องจะช่วยให้การฟื้นตัวไวขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติตามที่ต้องการ บทความนี้จะรวมทุกเรื่องผู้ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากควรรู้ไว้อย่างครบถ้วน
目录
- 什么是额头填充注射?
- สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากบวมกี่วัน ?
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม ?
- 额头填充注射后的护理
- วิธีลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- 总结
什么是额头填充注射?
额头填充注射 คือการฉีดสารเติมเต็มประเภท ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ผิวหนังบริเวณหน้าผาก เพื่อปรับรูปทรงให้มีความสมส่วน สวยงาม และแก้ไขปัญหาหน้าผาก ไม่ว่าจะเป็น หน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือหน้าผากบุ๋ม ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยร่องลึก หรือรอยย่นบนหน้าผาก ทำให้ผิวบริเวณหน้าผากมีความเรียบเนียน อิ่มฟู และมีความเต่งตึงมากขึ้น รวมถึงช่วยการปรับโหงวเฮ้ง โดยฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองหลังการฉีด การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่เสียเวลาพักฟื้น และต้องการเห็นผลลัพธ์แบบทันที

สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม
ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการบวมจากยาชาที่ใช้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาการบวมจะอยู่ประมาณ 3 – 5 ชั่วโมงแล้วจะยุบลงเอง หรืออาการบวมจากเนื้อฟิลเลอร์ เนื่องจากฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ทำให้เมื่อฉีดลงบนใบหน้า เช่น หน้าผากจะทำให้ดูอิ่มฟู มีความเต่งตึงขึ้น และบวม นอกจากนี้การใช้เข็มฉีดฟิลเลอร์ก็สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเล็กน้อยต่อเนื้อเยื่อ และหลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการบวมช้ำ หรือเกิดจ้ำเลือดได้ รวมถึงอาการบวมจากปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ การใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดการกดทับต่อเนื้อเยื่อ และอาการบวมลามลงมาถึงบริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแพทย์จึงไม่แนะนำให้ฉีดเกินครั้งละ 5 CC
แต่หากเกิดอาการบวมแบบรุนแรง เช่น อาการบวมจากการติดเชื้อ จะมีอาการปวด บวม แดง แสบร้อนมากกว่าปกติตรงบริเวณที่ทำการฉีด และอาจมีหนอง หรือมีไข้ร่วมด้วย ซึ่งมักจะมีสาเหตุมาจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด สถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน และการใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้คุณภาพ นอกจากนี้อาการบวมจากฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน หรือผิวที่ไม่เรียบเนียน โดยอาการจะเกิดขึ้นประมาณ 3 – 4 สัปดาห์หลังจากการฉีด ที่มีสาเหตุมาจากการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด หรือเทคนิคการฉีดของแพทย์ที่ไม่ถูกต้อง เช่น การฉีดตื้นเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์เกิดนูนเป็นก้อน สุดท้ายอาการแพ้ฟิลเลอร์ ซึ่งมักจะไม่ค่อยพบ แต่หากเกิดมักจะมีอาการคัน มีผื่นขึ้น อาการบวมมาก หรือมีอาการแพ้รุนแรง เช่นการหายใจลำบาก หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์แบบทันที
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากบวมกี่วัน ?
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 1 – 3 วัน จะมีอาการบวมขึ้นเพียงเล็กน้อย แล้วจะยุบหายไปภายใน 5 – 7 วัน โดยจะไม่มีอาการบวมขึ้นมาอีก จากนั้นจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งอาการลักษณะนี้ถือว่าเป็นอาการปกติ แต่หาก 3 วันหลังจากการฉีดมีอาการบวมมากขึ้น รวมถึงมีอาการปวด แดง แสบร้อนมากกว่าปกติ และมีหนอง หรือมีไข้ร่วม นานเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม ?
อย่างที่ทราบการฉีดฟิลเลอร์หน้า ถือว่ามีความเสี่ยง เพราะหน้าผากเป็นจุดเชื่อมต่อกับขมับ และมีเส้นเลือดเชื่อมกับดวงตาจำนวนมาก นอกจากนี้บริเวณหน้าผากมีการใช้ฟิลเลอร์มากกว่าจุดอื่น การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจึงมีโอกาสที่ฟิลเลอร์จะเข้าไปอุดตันที่เส้นเลือด ทำให้เนื้อตาย หรืออาจทำให้ตาบอดได้ เนื่องจากไม่มีเลือดไปเลี้ยงที่ผิวหนังบริเวณนั้น รวมถึงทำให้หน้าผากจับตัวเป็นก้อนให้ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ และหน้าผากไม่เรียบเนียนเป็นคลื่น ที่มีสาเหตุมาจากแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย และเพื่อผลลัพธ์ที่ตรงต่อความต้องการ ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน
额头填充注射后的护理

อย่างที่ทราบการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มชนิดหนึ่งเข้าสู่ผิวหนังบริเวณหน้าผาก เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผาก และช่วยลดเลือนริ้วรอย ดังนั้นเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้อง การคงอยู่ของผลลัพธ์ยาวนานขึ้น และเพื่อความปลอดภัย รวมถึงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง ควรมีการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ดังนี้
- งดการสัมผัส นวด คลึง หรือกดทับบริเวณที่ฉีด เช่นการใส่หมวกที่รัดแน่น หรือการสวมแว่นตาที่ต้องกดบริเวณหน้าผาก เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หรือเสียรูปทรง
- งดการอบซาวน่า อบไอน้ำ การแช่น้ำอุ่น หรือการอาบน้ำร้อนจัด ความร้อนสูงอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เกิดการสลายตัวเร็วขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ
- งดการทำเลเซอร์ หรือการทำหัตถการที่ใช้ความร้อนกับใบหน้า เช่น RF (Radiofrequency), Hifu, Ulthera, Thermage บริเวณหน้าผาก อย่างน้อย 14 วัน
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก เช่นการออกกำลังกายหนัก ๆ การยกของหนัก การก้มหน้าเป็นเวลานาน ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวม และรอยช้ำ
- งดการแต่งหน้า หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณหน้าผากอย่างน้อย 2 วัน เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดเกิดการสูบฉีด และส่งผลต่อรอยช้ำ ส่วนบุหรี่จะชะลอการฟื้นตัวของผิว
- งดการรับประทานยา หรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (เช่น Aspirin, Ibuprofen, Naproxen), วิตามินอี, น้ำมันปลา, สารสกัดจากโสม หรือใบแปะก๊วย เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดการรับประทานอาหารรสจัด อาหารหมักดอง เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอาการอักเสบ และการติดเชื้อ
- งดการทำทรีตเม้นต์หน้า การนวดหน้า หรือการขัดหน้า อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการขยับใบหน้าบ่อย ๆ ช่วง 3 วันหลังจากการฉีด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง
- การประคบเย็น ใช้เจลเย็น หรือน้ำแข็งห่อผ้าสะอาด ประคบเบา ๆ บริเวณที่ทำการฉีด ประมาณ 10 – 15 นาที สลับกับการพัก ทำซ้ำทุก 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อช่วยลดอาการบวมแดง และรอยช้ำ
- นอนหมอนสูง ช่วง 1 – 2 วันหลังจากการฉีด ควรนอนยกศีรษะให้สูงกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อลดอาการคั่งของเลือด และลดอาการบวมบริเวณใบหน้า
- การดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำ เป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย โดยน้ำจะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเข้าที่ได้เร็วยิ่งขึ้น
วิธีลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
อย่างที่ทราบอาการบวม จะอยู่ 1 – 3 วัน แล้วจะยุบหายไปภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งวิธีการลดอาการบวมหลังฟิลเลอร์หน้าผาก ดังนี้
- การดื่มน้ำให้เพียงพอ หลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ฟิลเลอร์มีความฟูสวย ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น และยังช่วยลดอาการบวม เพื่อทำให้เลือดไม่หนืดไหลเวียนได้ดี
- การปรับท่านอน ควรนอนหมอนสูงจะช่วยให้อาการบวมหายได้เร็วขึ้น หากนอนแนวราบ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณใบหน้า และทำให้เกิดอาการบวม
- การประคบเย็น การประคบเย็นหลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จะช่วยลดอาการบวม
- รับประทานยาลดอาการบวม เช่น Reparil, Leftose, Arnica






总结
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่บริเวณหน้าผาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากถือว่ามีความเสี่ยงและอันตราย หากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดอาจทำให้เนื้อตาย ตาบอดได้ และฟิลเลอร์อาจจับตัวเป็นก้อน ทำให้หน้าผากไม่เรียบเนียน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และคลินิกที่ได้มาตรฐาน พร้อมกับปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ การดูแลตัวหลังการฉีดอย่างถูกวิธี ซึ่งทาง Som 医生、Grace 医生和牡丹亭的医疗团队很乐意提供免费咨询。无需任何费用 และสำหรับ擅长额头注射填充物的医生 ที่อยากแนะนำสามารถคลิกดูได้ที่นี่