ฟิลเลอร์ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยยอดฮิตที่หลายคนเลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกและเติมเต็มใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากในไทยก็คือ Art Filler 和 乔雅登 แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วทั้งสองแบรนด์นี้มีจุดเด่นและความแตกต่างที่ควรศึกษาไว้ก่อนตัดสินใจ เพราะชนิดของฟิลเลอร์มีผลต่อความเป็นธรรมชาติ ระยะเวลาการคงอยู่ และความเหมาะสมกับแต่ละบริเวณบนใบหน้า บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า Art Filler และ Juvederm แตกต่างกันยังไง เพื่อช่วยให้เลือกได้ตรงใจและคุ้มค่าที่สุด
什么是 Juvederm?

乔雅登 เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกาที่นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand (DSKH) และได้รับรองการนำเข้าอย่างถูกต้องจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Allergan ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Hylacross Technology หรือ Vycross Technology ที่ทำให้ฟิลเลอร์แต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติที่หลากหลายเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกปัญหา
Art Filler คืออะไร ?

ART FILLER® (อาร์ท ฟิลเลอร์) เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์แบรนด์นึงจากประเทศฝรั่งเศส ผลิตโดยบริษัท FILLMED Laboratories ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก (HA) ผสมลิโดเคน (lidocaine) โดยเลือกใช้เทคโนโลยี Tri-Hyal® Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นของ FILLMED โดยเทคโนโลยีนี้เป็นการผสมผสานกรดไฮยาลูรอนิก 3 รูปแบบเข้าด้วยกัน
Juvederm & Art Filler ช่วยเรื่องอะไร
乔雅登 它是一种美国填充物。主要成分是透明质酸(HA),有助于填充并有助于增加皮肤的水分。此外,透明质酸还有以下多种帮助:
- 滋润肌肤 因为透明质酸具有吸引和保留表层水分的能力,从而使皮肤看起来更滋润、更亮丽,也使皮肤看起来更年轻。
- 帮助填补皱纹和深沟 Juvederm 有助于填补皱纹。以及因胶原蛋白变质和皮下脂肪引起的深层皱纹,使用HA帮助增加其数量并增加皮肤弹性,从而使皱纹和深层凹槽变浅。
- 帮助调整脸型或调整面部结构 例如填充颧骨、下巴或颌骨,这将有助于面部拥有更比例的结构。而且更加清晰。
帮助收紧皮肤 Juvederm Voluma 或 Volux 具有良好的紧肤功效。有助于使脸部轮廓更加清晰。并有助于减少皮肤松弛
Art Filler เป็นฟิลเลอร์สัญชาติฝรั่งเศสที่มีส่วนประกอบหลัก คือ 透明质酸 (HA) ซึ่งจะช่วยการเติมเต็มและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว นอกจากนี้ Hyaluronic Acid ยังช่วยในหลายด้านดังนี้
- 滋润肌肤 เนื่องจาก Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติในการดึงดูดและกักเก็บน้ำไว้บริเวณชั้นผิว ส่งผลให้ผิวหนังดูชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก Art Filler จะช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก ที่มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและไขมันใต้ผิวหนัง โดย HA จะช่วยเพิ่มปริมาตรและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ส่งผลให้ริ้วรอยและร่องลึกมีความตื้นขึ้น
- ช่วยปรับรูปหน้า หรือปรับโครงสร้างใบหน้า เช่น การเติมโหนกแก้ม คาง หรือกรอบหน้า ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้ามีโครงสร้างที่สมส่วนมากขึ้น และมีความคมชัดมากขึ้น
帮助收紧皮肤 Art Filler สามารถช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าตอบ เช่น แก้มและขมับ เพื่อคืนความอิ่มเอิบ และยังช่วยเสริมสร้างมิติให้กับโครงสร้างใบหน้าอย่างคาง โหนกแก้ม และกรอบหน้า รวมถึงเพิ่มความอวบอิ่มและปรับรูปทรงริมฝีปากให้สวยงามได้อีกด้วย

จุดที่เหมือนกันระหว่าง Juvederm กับ Art Filler
ทั้ง Juvederm และ Art Filler มีจุดที่เหมือนกันคือต่างก็เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยการดึงดูดและกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ ทั้งสองยี่ห้อยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้มหรือร่องน้ำหมาก รวมถึงช่วยปรับรูปหน้าและเพิ่มมิติให้กับโครงสร้างใบหน้าในส่วนต่าง ๆ เช่น โหนกแก้ม คาง หรือกรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูสมส่วนและคมชัดขึ้นเช่นกัน

ความแตกต่างระหว่าง Juvederm กับ Art Filler
特征 | 乔雅登 | Art Filler |
---|---|---|
เทคโนโลยีในการผลิต | มี 2 แบบหลัก Hylacross Technology (เนื้อเจลยืดหยุ่น) และ Vycross Technology (เนื้อเจลยกกระชับ บวมน้ำน้อย) | มีเทคโนโลยี TRI-HYAL (เป็นเทคโนโลยีของ Art Filler) ที่ช่วยให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นและเกาะตัวได้ดี เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ |
แหล่งผลิต | Allergan (สหรัฐอเมริกา) | FILLMED (ฝรั่งเศส) |
成果持久 | 1-2年 | 9-18 เดือน |
价格 | สูงกว่าเล็กน้อย เพราะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและผ่านการรับรองมากมาย | ราคาย่อมเยากว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ Juvederm |
Juvederm กับ Art Filler ฉีดร่วมกันได้ไหม
เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่น แม้จะมีส่วนประกอบหลักเป็น Hyaluronic Acid เหมือนกัน แต่ก็มีคุณสมบัติของเนื้อเจลที่แตกต่างกัน เช่น ความหนืด ความยืดหยุ่น และเทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน (อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าเรื่อง Hylacross และ Vycross ของ Juvederm) หากฉีดฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อซ้อนทับกันในชั้นผิวเดียวกัน อาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างเนื้อฟิลเลอร์ ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น เกิดการจับตัวเป็นก้อน หรือทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ
ดังนั้นแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อในบริเวณเดียวกันสามารถทำได้ แต่ควรทำด้วยความระมัดระวังและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ผลข้างเคียงระหว่าง Juvederm กับ Art Filler
เหมือนกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ เลย ที่มีความปลอดภัยสูงและผ่านการรับรองมาตรฐาน แต่ก็ยังอาจเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน ซึ่งโดยทั่วไป ผลข้างเคียงระยะสั้น ที่พบได้คล้ายกันทั้งสองแบรนด์ ได้แก่ รอยแดง ช้ำ บวม หรือกดเจ็บบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายเองภายในไม่กี่วัน ส่วนพวกผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ก้อนแข็ง (nodule), ฟิลเลอร์เคลื่อนที่, การอุดตันของหลอดเลือด (vascular occlusion) หรืออาการแพ้เนื้อฟิลเลอร์ อาจเกิดได้ทั้งใน Juvederm และ Art Filler แต่โอกาสพบค่อนข้างต่ำมาก อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงฉีดในสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองและปลอดภัย
สรุป Juvederm VS Art Filler
อย่างที่รู้ Juvederm และ Art Filler เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก (HA) ที่เหมือนกัน แต่ Juvederm ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross โดยมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู และมีความเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็มผิวและยกกระชับ Juvederm จึงเหมาะกับการฉีดในหลายบริเวณ เช่น ริมฝีปาก, ร่องแก้ม, ใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการสร้างโครงสร้างอย่างคางและแก้ม ส่วน Art Filler ใช้เทคโนโลยี TRI-HYAL ในการผลิต ซึ่งทำให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นและเข้ากับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ Art Filler จึงเหมาะกับการฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอยตั้งแต่ตื้นไปจนถึงลึก เช่น ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก, ร่องใต้ตา รวมถึงช่วยสร้างหรือฟื้นฟูรูปหน้าและปริมาตรของใบหน้าให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
เพราะฉะนั้นแล้วดีที่สุด คือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งดีที่สุด ซึ่งทางหมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Inbox Facebook หรือ Add Line นี้ได้เลย