Which brand of Botox is approved by the Thai FDA? Which country's is better?

โบท็อกซ์ (Botox) ที่ผ่าน อย. ไทย ยี่ห้อไหนดี มีให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่ละแบรนด์ก็มาจากประเทศที่ต่างกันและมีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น Allergan จากอเมริกา, Dysport และ Xeomin จากยุโรป, BTXA จากจีน หรือ Nabota, Aestox, Hugel, Botulax และ Clodew จากเกาหลี ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับความนิยมในคลินิกความงามบ้านเรา การเลือกใช้โบท็อกซ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับทั้งคุณภาพ จุดที่ฉีด และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยบทความนี้จะพาไปรู้จักโบท็อกซ์ ที่ผ่าน อย. ไทยในแต่ละยี่ห้อ ที่ถูกพูดถึงกันเยอะที่สุด รวมถึงคุณสมบัติและข้อดีของแต่ละยี่ห้อ

โบท็อกซ์ (Botox) ที่ผ่าน อย. ไทย ยี่ห้อไหนดี ?

โบท็อกซ์ คืออะไร

อย่างแรกเลยเราควรจะต้องรู้จักกันก่อนว่า โบท็อก (Botox) นั้นคืออะไร โดยโบท็อกซ์ คือ ชื่อทางการค้าของยาชนิดหนึ่ง โบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum Toxin) โดยเป็นสารที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะชื่อ Clostridium botulinum ซึ่งตัวของสารจะอยู่ในรูปแบบโปรตีน ที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถจับกับปลายของเส้นประสาทที่ใช้ในการควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วเข้าไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้น ที่ได้ทำการฉีดโบท็อก ไม่สามารถหดตัว และอยู่ในสภาพคลายตัว โดยวงการเสริมความงามโบท็อกจะช่วยในเรื่องการลดเหงื่อ ลดริ้วรอย การปรับปรุงรูปหน้า รวมไปถึงช่วยในเรื่องผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้เกิดความกระชับ แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์

โบท็อกซ์ (Botox) ที่ผ่าน อย. ไทย

1. Allergan

Allergan เป็นโบท็อกซ์สัญชาติอเมริกา ที่ถูกผลิตโดยบริษัท อัลเลอร์แกน ซึ่งเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียง มีผลิตภัณฑ์ชื่อดังหลายตัว เช่น Filler ยี่ห้อ Juvederm รวมถึงเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น coolsculpting นอกจากนี้ Allergan ยังถือว่าเป็นโบท็อก Original เนื่องจากเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นสารโบทูลินั่มสำหรับการลดริ้วรอย Allergan มีความปลอดภัยสูง เพราะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา

2. Dysport

Dysport เป็นโบท็อกซ์สัญชาติอังกฤษ ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Ipsen และบางครั้งจะถูกเรียกว่า โบท็อกซ์อังกฤษ จุดเด่นของ Dysport จะมีขนาดเล็ก และตัวยาจะมีการกระจายที่กว้าง จึงเหมาะกับการฉีดตรงบริเวณที่มีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ และบริเวณที่ต้องการให้มีการกระจายตัวของยาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ลดต้นแขน ลดน่อง ลดเหงื่อ และลดกลิ่นตัว Dysport ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน และได้รับการได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา และ อย. ของประเทศไทย

3. Xeomin

Xeomin โบท็อกซ์สัญชาติเยอรมัน ถูกผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA  เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับด้านเวชศาสตร์ความงาม และยารักษาโรคมากกว่า 100 ปี รวมถึงเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิตฟิลเลอร์ Belotero โดย Xeomin มีการใช้ XTRACT Technology™  ในขั้นตอนการผลิต ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเฉพาะสำหรับกระบวนการการผลิต Xeomin  มีการใช้ 2 ขั้นตอน ในการกรองแยกส่วนประกอบของโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโมเลกุล Xeomin ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน และมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการรับรองจากอย. ไทย, อเมริกา และยุโรป สำหรับประเทศไทยถูกจำหน่ายโดยบริษัท Merz Healthcare (Thailand)

4. Neuronox

Neuronox โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ที่มีการใช้โบท็อกซ์สายพันธุ์อเมริกา และสายพันธุ์ Hall A-hyper สำหรับการผลิต ซึ่งถูกผลิตโดยบริษัท Medytox มีการใช้เทคโนโลยีที่ควบคุมให้โบท็อกซ์บริสุทธิ์ โมเลกุลมีขนาดที่เท่ากัน ไม่มีโปรตีนอื่น ๆ ปนเปื้อน ทำให้ Neuronox มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.7% ทำให้โอกาสที่จะเกิดการดื้อโบท็อกซ์น้อย และเห็นผลได้ดี นอกจากนี้ Neuronox มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการับรองจากอย.ไทย, อเมริกา, เกาหลี และยุโรป Neuronox ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ  4 – 6 เดือน

5. BTXA

BTXA โบท็อกซ์สัญชาติฮ่องกง ที่ถูกคิดค้นโดย Prof. Hiroshi Sugiyama, Dr.Yinchun Wang และ Dr. Alan Brown Scott (เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาสารต้นแบบของโบท็อกซ์ Allergen)  BTXA เป็นสารบริสุทธิ์ชนิดหนึ่งที่ถูกสกัดจากแบคทีเรียชนิด Clostridium Botulinum Toxin Type A Hall Strain ที่มีความบริสุทธิ์ 99.5 % เมื่อทำการฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว ทำให้ช่วยลดริ้วรอย และมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการรับรองจาก อย.ไทย

6. Nabota

Korean Botox certified by USFDA (US Food and Drug Administration) by Nabota uses a unique technology called HI-PURE Technology, making it a Botox with high purity of 98.7%, acting quite quickly, with a low chance of drug resistance for those who inject it, and lasting for about 4 months. Nabota Botox is suitable for solving wrinkles, adjusting the shape of the face, and reducing the jaw, etc.

7. Aestox

Aestox Botox หนึ่งในโบท็อกสัญชาติเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration) เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ผู้ฉีดมีโอกาสดื้อยาน้อย ออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างไว และมีอายุอยู่ได้นานถึง 6 เดือน Aestox จะเหมาะในการช่วยลดริ้วรอย ช่วยลดขนาดของกราม และฉีดเฉพาะจุด อาทิเช่น ลดกรามเนื้อบริเวณน่องขา แขน หรือลดเหงื่อบริเวณรักแร้ เป็นต้น

8. Hugel

It is a Korean botox that has been certified safe by the FDA-Thai. Hugel is a highly pure botox that works quite quickly and lasts for about 4 months. However, it has a narrow distribution. Hugel is suitable for injection in specific areas.

9. Clodew

เป็นโบท็อกสัญชาติเกาหลีอีกหนึ่งตัว ที่ได้รับการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) และ อย. FDA-Thai โดย Clodew มีการเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง Hi pure technology มาใช้ ทำให้ Clodew เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์ ออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างไว และคงผลลัพธ์ประมาณ 4 เดือน Clodew เหมาะกับการช่วยลดริ้วรอย การลดขนาดของกราม ช่วยยกกระชับผิวหนัง เป็นต้น

10. Botulax

Another Korean botox that has passed the FDA's standards, Botulax is a pure and gentle botox that lasts for about 5 months. Botulax is suitable for reducing wrinkles, restoring the skin, helping to adjust the shape of the face, and helping to reduce the size of the jaw, etc.

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าใครอยากรู้ว่า โบท็อกเกาหลีดีไหม ? สามารถคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ Is Korean Botox good? Which brand is good? Aestox / Nabota / Botulax / Hugel

วิธีดูโบท็อกซ์แท้หรือปลอม

อย่างที่ทราบ การฉีดโบท็อกซ์ เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน จึงทำให้เกิดการทำของลอกเลียนแบบ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเจอโบท็อกซ์ปลอม ที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรืออาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยวิธีการดูโบท็อกซ์แท้ หรือปลอม ดังนี้

  • เลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย : โบท็อกซ์แท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องจะต้องมีเอกสารกำกับยาเป็นภาษาไทย พร้อมระบุเลขทะเบียน อย. บนกล่องอย่างชัดเจน แต่ถ้เป็นโบท็อกซ์ปลอมจะไม่มีเลขอย. ไทย
  • ข้อมูลบริษัทผู้นำเข้าที่ชัดเจน : บนกล่อง หรือเอกสารกำกับยา จะต้องมีการระบุชื่อบริษัทผู้นำเข้าอย่างละเอียด และชัดเจน โดยสามารถตรวจสอบกับบริษัทผู้นำเข้าโดยตรง เพื่อยืนยันเลข Lot Number ของยาได้
  • เลข Lot Number ต้องตรงกัน : เลข Lot Number ที่อยู่บนกล่องบรรจุภัณฑ์ และบนขวดของโบท็อกซ์จะต้องตรงกันทุกประการ หากไม่ตรงกันแสดงว่าเป็นโบท็อกซ์ปลอม
  • วันผลิต และวันหมดอายุต้องตรงกัน : วันผลิต และวันหมดอายุที่ระบุบนกล่องบรรจุภัณฑ์ และขวดยาจะต้องตรงกัน และไม่ควรเป็นยาที่หมดอายุ
  • บรรจุภัณฑ์ต้องสมบูรณ์ ต้องไม่มีการแกะ หรือฉีดขาด : กล่องบรรจุภัณฑ์จะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ต้องมีซีลพลาสติกใสปิดทับอยู่ด้านบนขวด (แล้วแต่ยี่ห้อ) หรือมีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมป้องกันการเปิด เพื่อแสดงว่ายังไม่เคยถูกเปิดใช้งานมาก่อน
  • ลักษณะตัวยา : ก่อนผสมน้ำเกลือตัวยาจะเป็นผงยาเคลือบอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำอยู่ด้านในขวด หากเห็นเป็นน้ำอยู่แล้วให้สมสัยว่าอาจเป็นของปลอม ส่วนหลังการผสมน้ำเกลือ ตัวยาควรจะละลายเป็นของเหลวใส ไม่มีตะกอน หรือสิ่งแปลกปลอม
  • ราคา : โบท็อกซ์แท้จะมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง หากเจอโปรโมชั่นที่ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ ให้ระมัดระวัง เพราะอาจจะเป็นของปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน