ถ้าใครยังไม่รู้จักเอนโดไทน์ (Endotine) แนะนำให้อ่านบทความนี้ก่อนเลย เพราะมีหลายเคสที่ต้องกลับมาแก้หลังทำแบบไม่เข้าใจมาก่อน การดึงหน้าด้วย Endotine เป็นเทคนิคที่ใช้วัสดุยึดเนื้อเยื่อใต้ผิวให้ยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาหน้าหย่อนคล้อยแต่ยังไม่อยากผ่าตัดใหญ่ เป็นหัตถการที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจ บทความนี้จะพาไปรู้จักว่า Endotine คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง และต้องระวังอะไรเป็นพิเศษบ้างก่อนทำจริง
เอนโดไทน์ Endotine
- เอนโดไทน์ Endotine คือ
- เอนโดไทน์ Endotine ช่วยเรื่องอะไร
- ทำไมคนถึงนิยมดึงหน้าด้วยวิธี เอนโดไทน์ Endotine
- เอนโดไทน์ Endotine มีกี่ประเภท
- เอนโดไทน์ Endotine อยู่ได้นานไหม
- ทำ Endotine เจ็บไหม
- สรุปข้อดี ข้อเสีย ของเทคนิค เอนโดไทน์ Endotine
เอนโดไทน์ Endotine คือ

เอนโดไทน์ Endotine คือ นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่ช่วยยกกระชับผิวหนัง คอ ยกคิ้ว และลดเลือนริ้วรอย โดยเอนโดไทน์จะมีลักษณะเป็นแผ่นบาง มีขนาดเล็ก มีความยืดหยุ่น และเป็นแบบหมุดที่มีตะขอ หรือหนามขนาดเล็กยื่นออกมาเพื่อใช้ในการยึด และดันเนื้อเยื่อผิวหนังที่เกิดการหย่อนคล้อยให้มีความกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 6 – 12 เดือน ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตราย Endotine มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการรับรองมาตรฐานจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา
เอนโดไทน์ Endotine ช่วยเรื่องอะไร
อย่างที่ทราบ เอนโดไทน์ (Endotine) เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่มีลักษณะเป็นแผ่นบาง มีขนาดเล็ก มีความยืดหยุ่น และเป็นแบบหมุดที่มีตะขอ หรือหนามขนาดเล็กยื่นออกมาเพื่อใช้ในการยึด และดันเนื้อเยื่อผิวหนังที่เกิดการหย่อนคล้อย ซึ่งจะช่วยยกกระชับดึงเนื้อเยื่อผิวในบริเวณที่การผ่าตัดเข้าถึงยาก ช่วยแก้ปัญหาผิวเกิดความหย่อนคล้อย ช่วยแก้Uneven facial features นอกจากนี้ Endotine จะช่วยแก้ปัญหาคิ้วตก หางตาตกที่อาจทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง ดูมีอายุขึ้น โดยจะช่วยยกหางตา และคิ้วให้ยกขึ้น ทำให้ดวงตาดูโต มีความสดใส และดูอ่อนกว่าวัย นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยตรงบริเวณหน้าผาก และระหว่างคิ้วให้มีความเรียบเนียน ช่วยปรับระยะห่างของคิ้ว กับดวงตา ทำให้ใบหน้าดูสมส่วน และสวยงามมากขึ้น รวมถึงยังช่วยแก้ปัญหาชั้นตาหลบใน ที่อาจเกิดมาจากปัญหาหนังตาตกที่ส่งผลให้ชั้นตาดูเล็กลง
แต่ส่วนใหญ่ Endotine จะทำควบคู่กับหัตถการอื่น เช่น การฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากเอนโดไทน์ เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมกับการผ่าตัดดึงหน้า หรือยกกระชับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเนื้อเยื่อ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น และดูเป็นธรรมชาติ

ทำไมคนถึงนิยมดึงหน้าด้วยวิธี เอนโดไทน์ Endotine
คนส่วนใหญ่จะนิยมดึงหน้าด้วยวิธีเอนโดไทน์ (Endotine) เพราะการผ่าตัดจะใช้การเปิดแผลที่มีขนาดเล็ก ประมาณ 1 – 2 ซม. โดยแผลจะอยู่ตรงบริเวณไรผม ทำให้ลดโอกาสการเกิดแผลเป็น และลดการมองเห็น นอกจากนี้การเกิดอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อก็น้อยกว่า ทำให้มีอาการบวมช้ำน้อย และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน นอกจากนี้ยังให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์ได้นาน เนื่องจากเอนโดไทน์มีลักษณะคล้ายกับหมุดขนาดเล็กที่มีเงี่ยง ซึ่งจะทำหน้าที่ในการช่วยยึดเกาะ และช่วยยกกระชับเนื้อเยื่อผิวหนังด้วยแรงที่เท่ากัน และสามารถกระจายตัวได้ดีกว่าการเย็บด้วยไหมธรรมดา ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง และผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น รวมถึง Endotine ยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา และยังสลายได้เองตามธรรมชาติ
เอนโดไทน์ Endotine มีกี่ประเภท
Endotine มีด้วยกัน 3 ชนิด แต่ละชนิดเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้าหรือยกกระชับทั้งสิ้น แต่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ใน แต่ละบริเวณใบหน้าที่แตกต่างกัน และมี วัตถุประสงค์เฉพาะ

ENDOTINE FOREHEAD สำหรับหน้าผากและคิ้ว

ENDOTINE MID FACE สำหรับแก้มส่วนกลางและแก้ปัญหาใบหน้าส่วนกลางหย่อนคล้อย

ENDOTINE TRANSBLEPH: สำหรับยกคิ้วและบริเวณรอบดวงตา โดยใช้แผลเล็กผ่านเปลือกตาบน
เอนโดไทน์ Endotine อยู่ได้นานไหม
อย่างที่ทราบ เอนโดไทน์ Endotine เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 6 – 12 เดือน ส่วนผลลัพธ์ของการยกกระชับจาก Endotine จะอยู่ได้ประมาณ 5 – 10 ปี แต่ระยะเวลาการคงอยู่มักจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตนเองหลังการทำ หรือสภาพผิว เป็นต้น
ทำ Endotine เจ็บไหม
ด้วยการทำ Endotine ทำภายใต้การวางยาสลบ ก็เลยอาจจะตอบได้ว่า การทำ Endotine ไม่รู้สึกเจ็บ แต่อย่างไรก็ตาม หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดตึง บวม หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งจัดการได้ด้วยยาแก้ปวดและจะค่อยๆ ดีขึ้นเองภายในหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากเป็นแผลขนาดเล็กและรบกวนเนื้อเยื่อน้อยกว่าการดึงหน้าแบบดั้งเดิม ทำให้การฟื้นตัวค่อนข้างเร็วและเจ็บน้อยกว่านั้นเอง

สรุปข้อดี ข้อเสีย ของเทคนิค เอนโดไทน์ Endotine
ข้อดีของเทคนิคเอนโดไทน์ (Endotine) | ข้อเสียของเทคนิคเอนโดไทน์ (Endotine) |
ใช้การเปิดแผลขนาดเล็กเพียง 1-2 ซม. บริเวณไรผม ช่วยลดการเกิดแผลเป็นและมองเห็นเอนโดไทน์ได้ยาก เทคนิคนี้ช่วยยึดเกาะและกระจายแรงยกกระชับเนื้อเยื่อได้สม่ำเสมอ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง ทั้งยังฟื้นตัวได้เร็ว ลดความช้ำ บวม และฟกช้ำน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเดิม เนื่องจากเป็นการผ่าตัดขนาดเล็กใต้ชั้นผิวหนัง ที่สำคัญ Endotine มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดย Endotine จะคงอยู่ในร่างกายประมาณ 6-12 เดือน ขณะที่ผลลัพธ์การยกกระชับจะอยู่ได้ยาวนานถึง 5-10 ปี | Endotine มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีการยกกระชับอื่น ๆ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยี และวัสดุมีราคาที่ค่อนข้างสูงเอนโดไทน์เป็นวัสดุที่สามารถละลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คงอยู่ถาวรEndotine ต้องอาศัยความชำนาญ และประสบการณ์สูงของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน |
ถึงแม้ว่าการดึงหน้าด้วยเทคนิค Endotine จะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง และมีการฟื้นตัวที่เร็ว แต่ Endotine ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการดึงหน้าด้วยวิธีอื่น ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์กับบางคน และส่วนใหญ่การทำ Endotine ก็ยังคงจำเป็นต้องทำควบคู่กับหัตถการอื่น เช่น การฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากเอนโดไทน์ เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมกับการผ่าตัดดึงหน้า หรือยกกระชับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเนื้อเยื่อ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น และดูเป็นธรรมชาติ