สาวๆ หลายคนคงใฝ่ฝันอยากมีใบหน้าที่อิ่มเอิบ เต่งตึง ไร้ริ้วรอย การฉีดฟิลเลอร์จึงกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยม แต่หลังฉีดฟิลเลอร์แล้ว หลายคนมักกังวลใจกับอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ บทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ บอกเล่าถึงระยะเวลาการบวม สาเหตุของอาการบวม วิธีดูแลตัวเอง การป้องกันอาการบวม และวิธีลดอาการบวมให้หายเร็วขึ้น เพื่อให้คุณสวยเป๊ะ ไร้กังวลหลังฉีดฟิลเลอร์ พร้อมเผยความงามอย่างมั่นใจ
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? ทำยังไงให้หายไว ?
- การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร?
- ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมแดง แสดงว่าผิดปกติหรือไม่?
- ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน และกี่วันจึงจะหายบวม?
- สาเหตุของอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
- อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์มีกี่ประเภท?
- ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจพบได้หลังฉีดฟิลเลอร์
- ระวังอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
- วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดอาการบวม
- สรุป ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน?
การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ หรือที่เรียกว่า การฉีดสารเติมเต็ม คือกระบวนการที่นิยมในการปรับรูปหน้า เพื่อเสริมและปรับปรุงลักษณะของใบหน้า โดยฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังเพื่อแก้ไขริ้วรอย ร่องลึก ปรับรูปหน้า หรือข้อบกพร่องอื่นๆ โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดทั่วไปมักเป็น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุมากขึ้นปริมาณกรดไฮยาลูรอนิกจะลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดริ้วรอย แต่การฉีดฟิลเลอร์ก็อาจมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงบางประการ ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีและปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะตัดสินใจในการทำ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมแดง แสดงว่าผิดปกติหรือไม่?
การฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมแดง เป็นอาการปกติที่พบได้บ่อย มักเกิดขึ้นภายใน 2-3 วันหลังการฉีด โดยที่เกิดขึ้นเป็นผลของกระบวนการการทำงานของฟิลเลอร์ อาจเป็นเพราะการกระตุ้นของสารเคมีในฟิลเลอร์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ซึ่งสามารถสร้างอาการบวมและแดงได้ชั่วคราวหลังการทำงานของฟิลเลอร์ หรือในบางกรณีก็อาจจะเกิดขึ้นได้จากน้ำหนักมือหรือเทคนิคการฉีดของแพทย์นั้นๆ
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน และกี่วันจึงจะหายบวม?
หากเป็นอาการบวมจากเข็มตามปกติแล้วจะบวมประมาณ 7-14 วัน การบวมหลังการทำฉีดฟิลเลอร์ มักเกิดขึ้นภายใน 2-3 วันแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ ลดลงและหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้อาจมีความแตกต่างระหว่างบุคคลและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งปริมาณ ชนิดของฟิลเลอร์ รวมถึงการดูแลรักษาหลังการทำฉีด ซึ่งบางครั้งอาจมีอาการบวมเล็กน้อยหรือไม่มีบวมเลย
สาเหตุของอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
สาเหตุหลักๆ ของอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยต่างๆ ได้แก่
- บริเวณที่ฉีด: บริเวณที่ผิวหนังบาง บอบบาง หรือมีเส้นเลือดฝอยอยู่มาก มักบวมมากกว่าบริเวณอื่น
- ชนิดของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์บางชนิด เช่น ฟิลเลอร์ HA มีแนวโน้มที่จะบวมน้อยกว่าฟิลเลอร์ชนิดอื่น
- เทคนิคการฉีด: การฉีดฟิลเลอร์แบบเข็มทู่ มักทำให้บวมน้อยกว่าการฉีดแบบเข็มแหลม
- ปริมาณฟิลเลอร์: การฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมาก มักทำให้บวมมากกว่าการฉีดปริมาณน้อย
- สุขภาพของผู้เข้ารับการรักษา: ผู้ที่มีสุขภาพดี พักผ่อนเพียงพอ มักมีอาการบวมน้อยกว่าผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง
- ปัจจัยอื่นๆ : การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือรับประทานยาบางชนิด อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเพิ่มความเสี่ยงในการบวม
อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์มีกี่ประเภท?
อาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้ ดังนี้
1. อาการบวมปกติ
อาการบวมปกติ เป็นอาการที่พบได้บ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ เกิดจากการอักเสบของร่างกายต่อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป โดยอาการบวมปกติ มักไม่เป็นอันตรายและไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ สามารถดูแลตัวเองได้ ทั้ง ประคบเย็น หลีกเลี่ยงการสัมผัส ดื่มน้ำให้เพียงพอ เป็นต้น
2. อาการบวมที่ไม่ปกติ (รุนแรง)
อาการบวมที่ไม่ปกติ เป็นอาการที่พบได้น้อยหลังฉีดฟิลเลอร์ เกิดจากภาวะแทรกซ้อน มักมีลักษณะ บวมรุนแรง ปวดร้อน มีไข้ เป็นต้น ในบางครั้งอาจมีอาการบวมที่มีความอุดตันหรือเป็นความผิดปกติในการไหลของเลือด ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
- การติดเชื้อ: เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ปนเปื้อน หรือผู้เข้ารับการรักษามีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มักมีอาการบวมรุนแรง ปวดร้อน มีหนองไหล และมีไข้
- การแพ้ฟิลเลอร์: เป็นอาการแพ้สารในฟิลเลอร์ มักมีอาการบวม คัน ผื่นแดง หรือหายใจลำบาก
- เนื้อตาย: เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด มักมีอาการบวมรุนแรง ปวดร้อน ผิวหนังเปลี่ยนสี และอาจมีเนื้อตาย
- ตาบอด: เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดบริเวณรอบดวงตา มักมีอาการปวดตา ตาแดง มองเห็นภาพไม่ชัด และอาจสูญเสียการมองเห็น
หากมีอาการบวมที่ไม่ปกติ (รุนแรง) ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัย รักษา และป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แนวทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ เลือกสถานพยาบาล แพทย์ และฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงอันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม และภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ซึ่งทางหมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจพบได้หลังฉีดฟิลเลอร์
นอกจากอาการบวมแดงซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้บ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์แล้ว ยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
ผลข้างเคียงทั่วไป:
- รอยช้ำ: มักเกิดขึ้นบริเวณที่ฉีด รอยช้ำจะค่อยๆ จางลงภายใน 1-2 สัปดาห์
- อาการปวด: มักเป็นอาการปวดเล็กน้อย อาจบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดชนิดที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์
- อาการคัน: มักเกิดขึ้นชั่วคราว หายไปเองภายในไม่กี่วัน
- อาการชา: มักเกิดขึ้นชั่วคราว หายไปเองภายในไม่กี่วัน
ผลข้างเคียงที่รุนแรง:
- การติดเชื้อ: อาจเกิดขึ้นหากใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด หรือผู้เข้ารับการรักษามีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาการของการติดเชื้อ ได้แก่ บวมแดงร้อน ปวด มีหนองไหล ควรไปพบแพทย์ทันที
- การแพ้ฟิลเลอร์: อาการของการแพ้ ได้แก่ ผื่นแดง คัน บวม หายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์ทันที
- อาการอื่นๆ เช่น บวมรุนแรง ปวดร้อน ผิวหนังเปลี่ยนสี ที่เป็นอาการของการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด
หากมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที ซึ่งทางหมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อป้องกันผลข้างเคียง ควรเลือกสถานพยาบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และแจ้งประวัติการแพ้ยารวมถึงโรคประจำตัวให้แพทย์ผู้ดูแลทราบ ซึ่งต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์อย่างเครงครัด
ระวังอาการบวมจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
การฉีดฟิลเลอร์เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย แต่หากฉีดฟิลเลอร์ปลอม อาจเกิดอันตรายร้ายแรง โดยเฉพาะ อาการบวม ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนสำคัญ โดยฟิลเลอร์ปลอม มักผลิตจากสารเคมีอันตราย ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง ร่างกายจะต่อต้าน เกิดการอักเสบ บวมแดง คัน ปวด และอาจมีหนองไหล ในบางรายอาจเกิดเนื้อตาย ติดเชื้อ หรือตาบอด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาต และรีวิวจากคนไข้ก่อนตัดสินใจ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฟิลเลอร์ของแท้ ดูยังไง?
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดอาการบวม
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีเสริมความงามที่ได้รับความนิยม และยังช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ มักมีอาการบวมแดงเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งมักจะ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามเราสามารถดูแลตัวเองเพื่อลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ ได้ดังนี้
สรุป ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน?
สรุปแล้วการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์จะแตกต่างไปตามบุคคลและประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ ซึ่งอาจมีปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการบวม เช่น ปริมาณของฟิลเลอร์ที่ฉีด, พฤติกรรมหลังการทำฉีด เป็นต้น ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้ว อาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์จะเริ่มแสดงตัวภายใน 2-3 วันแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ ลดลงและหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยบางครั้งอาจเกิดการบวมเล็กน้อยหรือไม่มีบวมเลย ขึ้นอยู่กับข้างต้น