ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี? ราคาเท่าไหร่? พร้อมรีวิวผลลัพธ์หลังฉีด

การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ หลายคนอาจสงสัยว่ายี่ห้อไหนดีที่สุดและราคาคุ้มค่า ฟิลเลอร์คางไม่ได้เพียงแค่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความมั่นใจในตัวเองอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์คางแต่ละยี่ห้อ ราคา และ 15 เรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้คุณได้ข้อมูลครบถ้วนและสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างมั่นใจ

สารบัญ ฟิลเลอร์คาง

ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์คาง คือ การปรับแต่งใบหน้าให้เข้ารูป ดูกระชับ มีความเรียวสวย เติมคางให้ดูยาวขึ้นด้วยการฉีดสารประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า HA เข้าไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มความสวยให้กับรูปคางตามแบบฉบับ “Golden Ratio” โดยไม่ต้องผ่าตัด

ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์คาง จะช่วยแก้ไขปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ช่วยปรับรูปหน้า และเสริมคางให้เรียวสวย ใบหน้าวีเชฟขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และยังช่วยในเรื่องของโหวงเฮ้ง ซึ่งจะช่วยในเรื่องของบุญวาสนาได้

คางส่งผลกับรูปทรงใบหน้า (Facial Shapes)

แบ่งลักษณะรูปทรงของใบหน้า (Facial shape) ได้ดังนี้

  1. ใบหน้ารูปไข่ (Oval Face) :
    ความยาวจะเท่ากับ 1 ½  ของความกว้าง หน้าผากจะกว้างกว่าคาง มีโหนกแก้มที่เห็นเด่นชัด และปลายคางเป็นรูปไข่แคบ
  2. ใบหน้ารียาว (Oblong Face) :
    ความยาวจะยาวกว่าความกว้าง  ความกว้างส่วนของหน้าผาก แก้มและกรามมีขนาดเท่าๆกัน คางค่อนข้างได้รูปสวย ใบหน้ามีลักษณะยาว
  3. ใบหน้าทรงกลม (Round Face) :
    ความกว้างของใบหน้าเท่ากับความยาว อาจจะต่างกันนิดหน่อยแต่โดยมากก็จะใกล้เคียงกัน ส่วนที่กว้างที่สุดของใบหน้าก็คือแก้ม
  4. ใบหน้าทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส (Square Face) :
    ความกว้างและความยาวมีขนาดใกล้เคียงกัน หน้าผาก โหนกแก้มและกรามมีความกว้างใกล้เคียงกัน กรามเป็นลักษณะค่อนข้างเหลี่ยม
  5. ใบหน้ารูปหัวใจ (Heart Face) :
    กรามแคบ โหนกแก้มและหน้าผากกว้าง ลักษณะคล้ายๆกับหน้ารูปไข่ แต่คางแหลม
  6. ใบหน้าทรงข้าวหลามตัดหรือรูปเพชร (Diamond Face) :
    บริเวณโหนกแก้มจะกว้างที่สุด ส่วนหน้าผากและกรามจะมีความกว้างใกล้เคียงกัน
  7. ใบหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle Face) :
    บริเวณส่วนหน้าผาก โหนกแก้มและกรามจะมีสัดส่วนที่เท่ากัน
  8. ใบหน้าทรงสามเหลี่ยม (Triangular Face) :
    จะตรงข้ามกับหน้ารูปหัวใจ โหนกแก้ม หน้าผากและขมับจะแคบ
  9. ใบหน้าทรงหกเหลี่ยม (Heptagon Face)

ลักษณะคางดีที่เหมาะสมที่สุด เสริมโหงวเฮ้ง

วัดจากสัดส่วนของ Golden Ratio

Golden Ratio คือ “สัดส่วนทองคำ” บนใบหน้า เป็นสัดส่วนแบบ 1:1:1 เพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้ามีขนาดเหมาะสม
วิธีคือ ให้ใช้ฝ่ามือประทับลงไปบนใบหน้าทั้งหมด 3 ส่วน ประกอบด้วย Upper Face ส่วนด้านบน เป็นการวัดสัดส่วนตั้งแต่ไรผมถึงหัวคิ้ว, Middle Face ส่วนตรงกลาง วัดตั้งแต่คิ้วจนถึงปลายจมูก และ Lower Face ส่วนด้านล่าง วัดตั้งแต่ปลายจมูกถึงปลายคาง โดยแต่ละส่วนของใบหน้าที่ฝ่ามือวางลงไปต้องมีขนาดพอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป จึงจะนับเป็น Golden Ratio 1:1:1 ที่ถูกต้อง หากใครที่วัดไปแล้วคางสั้นหรือยาวกว่าฝ่ามือ ก็ต้องทำการฉีด ฟิลเลอร์คาง เพื่อปรับรูปหน้าให้สมส่วน

Facial angle เครื่องมือที่ใช้วัดองศาใบหน้า

โดยวัดจาก Glabella ลากเส้นมายัง Subnasal ไปจนถึง Pogonion เพื่อกำหนดตำแหน่งคางที่เหมาะสมที่สุด

แบ่งออกเป็น class ดังนี้
I      : 165 – 175 องศา => สัดส่วนที่เหมาะสมที่สุด สวยที่สุด
II      : < 165 องศา => คางถอย
III     : > 175 องศา => คางยื่น

Ricketts’ aesthetic line

โดยเส้นที่ลากจากปลายจมูก มายังปลายคาง โดยริมฝีปากบนจะต้องห่างจากเส้นนี้ 4 mm ริมฝีปากล่างจะต้องห่างจากเส้นนี้ 2 mm

ความกว้างของคาง

คางที่สวยจะต้องไม่แหลมจนเกินไป จะดูมนๆกลมสวย แต่ไม่มากจนเกินไป ยังคงดูธรรมชาติ สัดส่วนความกว้างของคางในผู้หญิงและผู้ชายจะมีขนาดที่แตกต่างกันโดย
ผู้หญิง  : ความกว้างของคางจะไม่เกินขอบของปีกจมูก
ผู้ชาย   : ความกว้างของคางจะไม่เกินขอบของมุมปาก

ข้อดีและข้อเสียของฟิลเลอร์คาง?

ข้อดีข้อเสีย
– การฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ใช่การผ่าตัด ทำให้เห็นผลหลังทำได้ทันที
– หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
– การฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้เข้ารูป ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
– ฟิลเลอร์ เป็นสาร Hyaluronic Acid สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
– ฟิลเลอร์จะอยู่ได้ 12-18 เดือน จากนั้นจะสลายไปเอง ทำให้รูปหน้ากลับสู่ปกติ ไม่ถาวรเหมือนการผ่าตัดเสริมคาง
– หากฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฟิลเลอร์ปลอม จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ อันตราย เช่น ติดเชื้อ เกิดพังผืดใต้ผิว ฟิลเลอร์กองเป็นก้อนทำให้คางผิดรูป เป็นต้น

ฟิลเลอร์คางเหมาะกับใครบ้าง?

  1. ผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าตามแบบฉบับ “Golden Ratio” – ฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วนแบบ Golden Ratio 1:1:1 ได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังปรับรูปหน้าได้ตามโหงวเฮ้งอีกด้วย
  2. ผู้ที่มีปัญหาคางผิดรูป
    • ปัญหาคางสั้น – มีปลายคางที่สั้นจนมองไม่เห็น ทำให้ใบหน้ากลม ฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปคางให้ยาวขึ้นได้ ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวสมส่วน
    • ปัญหาคางตัด – มีปลายคางแบนเหมือนถูกตัด ทำให้รูปหน้าดูเหลี่ยม ดูไม่อ่อนหวาน ฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูวีเชฟขึ้นได้
    • ปัญหาคางบุ๋ม – มีปลายคางยุบเป็นร่อง ลักษณะเหมือนผลแอปเปิ้ล ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มให้รูปคางดูเป็นธรรมชาติได้
    • ปัญหาคางถอย – มีปลายคางถอย เมื่อมองจากมุมข้าง คางดูไม่สมส่วน ทำให้ปากห้อย ฟิลเลอร์จะช่วยเติมรูปคางให้ดูสมส่วน มีมิติได้
  3. ผู้ที่ชอบความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น – การฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ใช้เวลาน้อย

ฉีดฟิลเลอร์คาง VS ผ่าตัดเสริมคาง

หัวข้อฉีดฟิลเลอร์คางผ่าตัดเสริมคาง
วิธีการแพทย์จะฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิดเข้าบริเวณคางแพทย์จะทำการผ่าตัดโดยการกรีดแผลใต้คางและใส่ซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนเทียม
เหมาะกับใครเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปคางเล็กน้อย ให้เรียวขึ้น ปลายคางแหลมขึ้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปคางอย่างมาก เปลี่ยนโครงสร้างคาง ให้คางยาวขึ้น หรือเสริมคางที่ไม่มี
ระยะเวลาในการทำประมาณ 15-30 นาที30-60 นาที
ระยะเวลาพักฟื้นไม่ต้องพักฟื้น1-2 สัปดาห์
ผลลัพธ์ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลผลลัพธ์ถาวร แต่ร่างกายอาจมีการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา
การดูแลหลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือก้มหน้า งดการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และเล่นกีฬาหนักๆ
ราคาประมาณ 5,000 – 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์และสถานบริการประมาณ 15,000 – 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนเทียมและความยากง่ายของการผ่าตัด
ความเสี่ยงมีความเสี่ยงน้อย มีโอกาสเกิดอาการบวม แดง ช้ำ หรือเขียวหลังฉีด ฟิลเลอร์อาจไหลหรือก้อนมีความเสี่ยงปานกลาง มีโอกาสเกิดอาการบวม แดง ช้ำ ติดเชื้อ หรือเลือดออก
ผลข้างเคียงอาจเกิดอาการบวม แดง ช้ำ หรือเขียวหลังฉีด ฟิลเลอร์อาจไหลหรือก้อนอาจเกิดอาการบวม แดง ช้ำ ติดเชื้อ หรือเลือดออก
ข้อจำกัดไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนid, ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
ความนิยมในไทยได้รับความนิยมสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัดได้รับความนิยมปานกลาง เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร ยอมรับการผ่าตัดได้

ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี ? ราคาเท่าไหร่ ?

  • ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Juvederm Volux (อยู่ได้ยาวนานถึง 18-24 เดือน)
    จุดเด่นของรุ่น VOLUX : เนื้อเจลชนิดเนื้อแข็ง เหมาะสำหรับฉีดพยุงโครงสร้างของใบหน้า
    ราคา : 18,500 / cc
  • ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Restylane Perlane Lyft (อยู่ได้ยาวนานถึง 12 เดือน)
    จุดเด่นของรุ่น Restylane Perlane Lyft : เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
    ตำแหน่งที่เหมาะ : ฟิลเลอร์ยกหน้า , ฟิลเลอร์แก้มส้ม , ฟิลเลอร์จมูก , ฟิลเลอร์กรอบหน้า(Jawline)
    ราคา : 15,000 / cc
  • ฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อ Restylane Defyne (อยู่ได้ยาวนานถึง 18 เดือน)
    จุดเด่นของรุ่น Restylane Defyne : เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง มีความคงรูปได้ดี ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก บริเวณ Midface , แก้มส้ม , ร่องแก้ม , คาง , กรอบหน้า (Jawline)
    ราคา : 15,000 / cc

การเตรียมตัวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ควรงดยา แอสไพริน , NSAIDs เช่น Ibuprofen , Diclofenac , Ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ
  • ควรงดวิตามิน St.John Wort , Ginko biloba , Primrose oil , Garlic , Ginseng , and Vitamin E เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ
  • ควรงดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น ยาประเภทอนุพันธ์วิตามินเอ , Retinols , Retinoids , Glycolic Acid , หรือครีมในกลุ่ม “ Anti-Aging ” ทุกชนิด เป็นเวลา 3 วันก่อนทำ
  • ควรงดการแว็ก ผลักเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนบริเวณนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
  • หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่างๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์หรือร้อยไหม เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
  • หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่นๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

  • งดเลเซอร์ อบซาวหน้า นวดหน้าลงความร้อนบริเวณหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
  • งดทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออกมากขึ้น เช่น แอสไพริน , วิตามินอี , ใบแป๊ะก๊วย ในช่วง 1 สัปดาห์แรก
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ บุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงความร้อนต่างๆบริเวณใบหน้า เช่น การเป่าผม และ การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ ขั้นต่ำ 2-3 ลิตร ต่อวัน เนื่องจากฟิลเลอร์จะฟูขึ้น ทำให้อยู่ได้นาน
  • ไม่ควรกดนวดคลึงลูบคลำ หรือปั้นเอง บริเวณตำแหน่งที่มีการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายของตัวยาไปตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
  • สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติในวันรุ่นขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี ?

การเลือกฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี อย่างแรกคือ คลินิกต้องได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่สนใจและกำลังมองหาที่ฉีดฟิลเลอร์ต้องโฟกัสเรื่องนี้ก่อนเป็นเรื่องแรกแน่นอน และนอกจากใบอนุญาตแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ให้ตัดสินใจอีกดังนี้

  • แพทย์หรือผู้เขี่ยวขาญต้องมีประสบการณ์ และความชำนาญ สามารถฉีดฟิลเลอร์คางได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  • ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ และให้ผู้รับบริการตรวจสอบได้
  • สังเกตุรีวิวผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คาง จากผู้ที่เคยใช้บริการจริง
  • ให้ข้อมูลและให้คำปรึกษา ก่อนและหลัง อย่างครบถ้วนทุกคำตอบ

คำถามที่พบบ่อย

ฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม?

หากเป็นแพทย์ชำนาญการ พร้อมด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานได้คุณภาพ ความอันตรายจะลดลงมาก ผลข้างเคียงแทบไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าจะมีก็เล็กน้อย เช่น มีรอยรูเล็ก ๆ บริเวณที่มีการฉีดฟิลเลอร์คาง ในทางกลับกัน หากรับการบริการจากแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้คางมีสัดส่วนที่ไม่ได้รูป เช่น เป็นคางมะม่วง และมีโอกาสที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ ฟิลเลอร์คาง เป็นก้อน เนื่องจากฉีดเข้าไปผิดบริเวณ ใช้ฟิลเลอร์มากเกินไป จะทำให้บริเวณที่ฉีดจับกันเป็นก้อน จนอาจไม่สามารถสลายได้ ดังนั้นการฉีด ฟิลเลอร์คาง จะไม่เกิดอันตรายกับผู้รับบริการ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัย

ฟิลเลอร์คางสลายได้หรือไม่?

การฉีดฟิลเลอร์คาง นั้นมีความปลอดภัย เพราะฟิลเลอร์ที่ใช้นั้น เป็นสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) สารชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะร่างกายสามารถสร้างเอนไซม์ Hyaluronidase มาช่วยในการสลาย HA เมื่อเวลาผ่านไปก็จะค่อย ๆ สลายไป ไม่มีการตกค้างไว้ หรือเกิดผลข้างเคียง ปกติแล้วการฉีด ฟิลเลอร์คาง จะเห็นผลได้ราว ๆ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ และการตอบสนองของร่างกายเมื่อได้รับเข้าไป อย่างไรก็ตามหากเป็นฟิลเลอร์คางที่ไม่มีคุณภาพก็จะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม และมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายต่อร่างกายหลายเท่า จึงเน้นย้ำเสมอว่าต้องฉีดกับแพทย์เฉพาะทางที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเท่านั้น

ทำไม ? หลังฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน

การฉีดฟิลเลอร์คาง ต้องใช้ความเชี่ยวชาญไม่แพ้ตำแหน่งอื่น หากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน ไม่เป็นธรรมชาติหรือดูเป็นคางมะม่วง เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเกิดจากการฉีดผิดตำแหน่งหรือไม่ลึกพอ ทำให้ฟิลเลอร์กองกันเป็นก้อนบวม ดูผิดรูป หรือเกิดจากการที่ฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน/ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สลายตามธรรมชาติ เกิดการไหลย้อย ไม่เป็นทรงและจับกันเป็นก้อน

วิธีแก้ไข/รักษา อาการฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน ?

กรณีฉีดฟิลเลอร์คางที่ไม่ได้มาตรฐาน บวมเป็นก้อนและเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือ ฟิลเลอร์คางผิดเทคนิค จนฟิลเลอร์กองกันเป็นก้อน  สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดสลาย แล้วฉีดฟิลเลอร์คางเข้าไปใหม่ในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ Hyaluronidase ในการสลายเท่านั้น

สรุป

การเลือกฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับรูปคางหรือแก้ไขปัญหาคางไม่ได้รูปทรงที่สวย ทำให้รูนหน้าโุไม่สมส่วน โหวงเฮ้งไม่ดี ให้กลับมาดูเรียวยาว สวย และสมส่วนกับรูปหน้า ดูมีราศี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยไม่ต้องพักฟื้นและเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ

ซึ่งการเลือกฉีดฟิลเลอร์คางต้องคำนึงแพทย์หรือหมอที่ชำนาญและมีประสบการณ์ รวมถึงใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อให้ได้คางเรียวสวย สมส่วนรูปหน้า และมีคุณสมบัติที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง

รีวิวผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คางจากผู้ใช้จริง


สุดท้ายนี้ผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Inbox Facebook หรือ Add Line นี้ได้เลย คุณหมอตอบเองทุกเครส

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า คืออะไร ? กับแก้ไขปรับรูปหน้าให้สมส่วน

ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้าเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนและปรับรูปหน้าให้สมส่วน…

12 วิธีลดรอยย่นหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

ปัญหาหน้าผากเกิดรอยย่น หรือเกิดริ้วรอย ถือว่าเป็นปัญหากวนใจให้กับใครหลายคน ไม่เว้นแม้แต่เพศชาย…

[เผย] หน้าผากโหนก นูน เป็นยังไง ทำไงให้โดดเด่น โดยไม่ต้องผ่าตัด

หน้าผากโหนก นูน ไม่ได้เป็นเพียงตำหนิบนใบหน้า แต่เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงโหงวเฮ้งดี…