การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เป็นหนึ่งในวิธีการลดไขมันเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ยี่ห้อที่นิยมในไทย เช่น ยี่ห้อ Babi Neo One (เมโสแฟจ บาบิ นีโอ วัน) โดยวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม ซึ่งหลายคนสงสัยว่าเมโสแฟตคืออะไรและสามารถช่วยลดไขมันได้อย่างไร บทความนี้จะอธิบายถึงกระบวนการทำงานของเมโสแฟต วิธีการฉีด และประโยชน์ที่คุณจะได้รับ พร้อมทั้งข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
เมโสแฟต (Meso fat)
- เมโสแฟต (Meso fat) คือ
- การฉีดเมโสแฟตช่วยเรื่องอะไร
- การฉีดเมโสแฟตเหมาะกับใคร
- ฉีดเมโสแฟต (Meso fat) ราคา
- เลือกฉีดเมโสแฟต (Meso fat) ที่ไหนดี ?
- คำถามที่พบบ่อย
เมโสแฟต (Meso fat) คือ
เมโสแฟต (Meso fat) คือ เทคนิคการลดไขมันและลดเซลลูไลท์เฉพาะจุดแบบไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะทำการฉีดสารที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นผิวหนังบริเวณไขมัน โดยหลังจากฉีดตัวยา ไขมันจะเกิดการแตกตัวหรือสลายตัว และจะถูกขับออกทางการขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดมีขนาดลดลง ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดกระชับยิ่งขึ้น
โดยตัวยาที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน และลดการเกิดเซลล์ไขมันขึ้นมาใหม่ มีดังนี้
- แอลคาร์นิทีน (L-carnitine) มีคุณสมบัติช่วยในการเปลี่ยนเซลล์ไขมันให้กลายเป็นพลังงาน รวมถึงช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใต้ผิวหนัง
- ไทโรซีน (Tyrosine) มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันภายในร่างกายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- เมโสสตาบิล (Mesostabyl) มีคุณสมบัติกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase และลดการสร้างไขมัน รวมถึงหยุดการสร้างคอเลสเตอรอลในเนื้อเยื่อ
- สารสกัดอาร์ติโชค (Artichoke extract) มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างกรดไขมัน และลดระดับไขมันแบบเฉพาะจุด
การฉีดเมโสแฟตช่วยเรื่องอะไร
การฉีดเมโสแฟต (Meso fat) เป็นวิธีการฉีดสลายไขมันตรงผิวหนังชั้นไขมัน ซึ่งหลังจากการฉีด ไขมันจะเกิดการแตกตัวหรือสลายตัว ดังนั้นการฉีดเมโสแฟตจะช่วยลดไขมันส่วนเกินที่สะสมตามจุดต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก หรือเหนียง นอกจากนี้ยังช่วยลดเซลลูไลท์ ลดรอยบุ๋มที่เกิดจากไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเรียบเนียนยิ่งขึ้น และช่วยให้บริเวณที่ฉีดกระชับขึ้น ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว แก้ปัญหาแก้มห้อย รวมถึงช่วยลดไขมันบริเวณใต้ตา และเสริมสร้างความมั่นใจในรูปลักษณ์ เป็นต้น
การฉีดเมโสแฟตเหมาะกับใคร
การฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับไขมันส่วนเกินตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จึงเหมาะกับบุคคลเหล่านี้
- บุคคลที่ชอบรับประทานอาหารประเภท ของทอด ของมัน หรือของหวาน ในปริมาณที่มาก ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกิน
- บุคคลที่มีปัญหาไขมันสะสมบนใบหน้าเยอะ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หรือเหนียง ส่งผลให้ใบหน้าดูอ้วน และเห็นกรอบหน้าไม่ชัดเจน
- บุคคลที่ต้องการลดไขมันส่วนเกิน ตรงบริเวณต้นแขน ต้นขา สะโพก และน่อง เป็นต้น
- บุคคลที่ต้องการแก้ไขปัญหาไขมันเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ซึ่งการฉีดแฟตจะทำให้หน้าท้องมีความเรียบเนียนมากขึ้น
- บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับเซลลูไลท์ ซึ่งการฉีดแฟตจะช่วยลดเลือนรอยบุ๋มที่เกิดจากไขมันสะสมบริเวณใต้ผิวหนัง
- บุคคลที่ต้องการลดไขมันอย่างเร่งด่วน แบบไม่ต้องทำการผ่าตัด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
ฉีดเมโสแฟต (Meso fat) ราคา
เลือกฉีดเมโสแฟต (Meso fat) ที่ไหนดี ?
อย่างที่ทราบกันการฉีดเมโสแฟต (Meso fat) เป็นการฉีดสารละลายพิเศษเข้าไปยังบริเวณชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งสารละลายจะเข้าไปช่วยให้เซลล์ไขมันเกิดการสลายตัว ทำให้ไขมันส่วนเกินลดลง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีตรงต่อความต้องการ และผลลัพธ์ที่คงอยู่ รวมถึงความปลอดภัย ควรเลือกใช้บริการกับสถานพยาบาล หรือคลินิกที่มีลักษณะ ดังนี้
- คลินิกหรือสถานบริการ ต้องมีใบอนุญาตสถานพยาบาลและเลขที่อนุญาตจำนวน 11 หลัก อย่างชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้
- ทีมแพทย์ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ และมีประสบการณ์จนเกิดความชำนาญในการฉีดเมโสแฟต
- ทีมแพทย์ควรมีความรู้เกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต และสามารถวิเคราะห์ปัญหา รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- คลินิกต้องเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ และตัวยาที่เป็นของแท้
- คลินิกควรมีผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหา และความต้องการของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ
- คลินิกต้องมีบริการให้คำปรึกษา และสามารถตอบคำถามให้กับคนไข้ได้อย่างถูกต้อง
- ต้องมีรีวิวจากผู้ที่เข้ามาใช้บริการจริง โดยเฉพาะเคสที่เกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต
- คลินิกหรือสถานที่ให้บริการ ต้องได้มาตรฐาน และมีอุปกรณ์ที่เพียงพอเพื่อความปลอดภัย
- คลินิกหรือสถานที่ให้บริการ ต้องมีการอธิบายรายละเอียดก่อนทำ และวิธีการดูแลตัวเองหลังจากทำ ไว้อย่างละเอียด รวมไปถึงทีมแพทย์ต้องมีการติดตามผลหลังการทำ
- คลินิกหรือสถานที่ให้บริการ ควรตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเดินทาง
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดเมโสแฟต (Meso fat) บวมกี่วัน ?
หลังจากการฉีดเมโสแฟตอาจเกิดอาการบวมตรงบริเวณที่ฉีด ซึ่งปกติอาการบวมจะยุบ และหายไปเอง โดยใช้เวลา 1 – 3 วัน แต่สำหรับบางบุคคลอาจใช้เวลาที่นานกว่าจะหาย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณของสารที่ฉีด บริเวณที่ทำการฉีด สภาพผิว และการตอบสนองของร่างกาย เป็นต้น แต่หากเกิดอาการผิกปกติ เช่น เกิดอาการร้อนตรงที่ทำการฉีด หรืออาการเจ็บ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ฉีดเมโสแฟต (Meso fat) อันตรายไหม ?
การฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีการที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และช่วยลดสัดส่วนที่มีความปลอดภัย หากทำการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านการฉีดแฟต และตัวยาที่ใช้ฉีดเป็นของแท้ แต่ถ้าใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีการผสมสเตียรอยด์ในปริมาณที่มากจนเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เช่นเกิดการติดเชื้อ อาการแพ้ หรือผิวหนังเกิดการบุ๋มลง นอกจากนี้ผู้ที่ทำการฉีดถ้าไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้เกิดการฉีดผิดตำแหน่ง เส้นเลือดเกิดการอุดตัน หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เป็นต้น
เมโสแฟต (Meso fat) 1 ขวด มีกี่ CC
ปริมาณเมโสแฟตที่ใช้ในการฉีดแต่ละครั้งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันส่วนเกินและพื้นที่ที่ต้องการปรับปรุง โดยทั่วไปแล้ว เมโสแฟต 1 ขวดจะมีปริมาณ 10 CC แต่แพทย์จะพิจารณาปรับปริมาณให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมาย
ตัวอย่างตำแหน่งที่ฉีดเมโสแฟต พร้อมจำนวน CC ที่อาจใช้ (โดยประมาณ)
- แก้ม 2 – 5 cc ต่อข้าง (ขึ้นอยู่กับขนาดของแก้ม)
- คาง 1 – 3 cc
- ต้นแขน 5 – 10 cc ต่อข้าง
- ต้นขา 10 – 20 cc ต่อข้าง
- หน้าท้อง 15 – 30 cc (ขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าท้อง)