คางบุ๋ม คางสั้น หรือคางตัด อาจเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อถ่ายรูปหรือมองตัวเองในกระจก จริง ๆ แล้วปัญหาเหล่านี้มีสาเหตุ และสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีที่ปลอดภัยและเห็นผลได้จริง โดยบทความนี้มีคำตอบ ทั้งเรื่องสาเหตุและแนวทางปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
คางบุ๋ม คางสั้น คางตัด มีลักษณะอย่างไร
อย่างที่ทราบ คาง เป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อภาพรวมของใบหน้า โดยเฉพาะเรื่องของสัดส่วน และความสมดุล ลักษณะของคางมีความแตกต่างกัน เช่น คางบุ๋ม คางสั้น และคางตัด ซึ่งตามศาสตร์โหงวเฮ้งของจีน อาจบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย และความเป็นอยู่
คางบุ๋ม คางสั้น คางตัด มีลักษณะดังนี้
คางบุ๋ม (Cleft Chin / Dimple Chin) คือ คางจะมีลักษณะเป็นรอยบุ๋มเล็กน้อยคล้ายร่องลึก หรือมีรอยเว้าตรงกลาง มักจะเกิดจากกระดูกตรงขากรรไกรล่าง หรือกล้ามเนื้อตรงบริเวณคางที่มีการบรรจบกันไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดรอยแยก หรือรอยบุ๋มขึ้นมา รวมถึงทำให้ผิวไม่เรียบเนียน และทำให้คางทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
คางตัด (Square Chin / Wide Chin) คือ คางจะมีความกว้าง และเป็นเหลี่ยมชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณมุมของคางที่จะทำมุมเป็นเหลี่ยมคล้ายทรงสี่เหลี่ยม มักจะพบในบุคคลที่มีโครงสร้างกระดูกขากรรไกรที่มีความกว้าง และแข็งแรง ทำให้ใบหน้าช่วงล่างดูแข็งกระด้าง และรูปหน้าดูเหลี่ยมมากขึ้น
คางสั้น (Recessed Chin / Short Chin) คือ คางที่มีความยาวสั้นกว่าปกติ เมื่อเทียบกับสัดส่วนของใบหน้า หากมองจากด้านข้าง คางจะถอยเข้าไปด้านในเมื่อเทียบกับแนวปาก หรือหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ และใบหน้าดูไม่สมดุล
คางบุ๋ม คางสั้น หรือคางตัด ส่งผลอะไรกับโหงวเฮ้ง
ตามศาสตร์โหงวเฮ้งของจีน คาง จะบ่งบอกถึงความรู้ และความสามารถ โดยลักษณะโหงวเฮ้งคางที่ดี คางต้องมีรูปกลมมน ไม่เป็นกระดูกแหลม จะบ่งบอกว่าเป็นคนที่มีความโอบอ้อมอารี ใจดี และถ่อมตัว ส่วนคางนูน ต้องนูนด้วยเนื้อ ไม่ใช่นูนด้วยกระดูก จะบ่งบอกว่าเป็นบุคคลที่มีวาสนา มั่งมีด้วยทรัพย์สิน ซึ่งหากบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย มีคางบุ๋ม คางสั้น หรือคางตัด ตามศาสตร์ของโหงวเฮ้ง จะถือว่าเป็นบุคคลที่ขาดความอดทน ชีวิตบั้นปลายไม่ราบรื่น ชีวิตคู่มีปัญหา ไม่ราบรื่น ไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ฐานะไม่มั่นคง และมีปัญหาด้านสุขภาพ
คางบุ๋ม คางสั้น คางตัด เกิดจากอะไร
อย่างที่ทราบ คาง ถือเป็นตัวช่วยในการกำหนดรูปหน้า และสัดส่วนโดยรวม การที่คางมีลักษณะที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คางบุ๋ม คางสั้น คางตัด สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
- พันธุกรรม เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดคางบุ๋ม คางสั้น คางตัด เนื่องจากโครงสร้างใบหน้า และขากรรไกรสามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมา ไขมันตรงบริเวณคาง และกระดูกบริเวณขากรรไกร รวมถึงคางจะเกิดการฝ่อตัวลง ทำให้คางเกิดรอยบุ๋ม
- การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ เช่น การเม้มปาก การแสดงออกทางสีหน้า และการห่อปาก เป็นประจำ จะทำให้กล้ามเนื้อ Mentalis ที่อยู่ตรงบริเวณคางเกิดการเกร็งตัว ทำให้ตรงบริเวณคางทั้ง 2 ข้างแข็งเป็นก้อน ส่งผลให้ผิวเกิดเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน และทำให้คางเกิดการบุ๋มตัวลง
- กระดูกใบหน้าส่วนล่างเกิดอาการผิดปกติ เนื่องจากโครงสร้างส่วนล่าง หรือตรงบริเวณขากรรไกรเกิดการถอยเข้าไปด้านใน ส่งผลให้ใบหน้าเกิดการผิดรูป มีปัญหาฟันยื่น ปากดูอูม ฟันไม่สบกัน จะทำให้คางมีลักษณะถอยเข้าไปด้านในไม่ยื่นออกมา
- กระดูกคางสั้น อย่างที่ทราบโครงสร้างกระดูกคางของแต่ละบุคคลจะไม่เหมือนกัน บุคคลที่มีคางสั้นส่วนใหญ่จะมีลักษณะกระดูกคางที่สั้นอยู่แล้ว ส่งผลให้ใบหน้าดูกลม และคางสั้น
- ไขมันสะสมตรงบริเวณแก้ม อย่างที่ทราบสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูกลม เพราะแก้มใหญ่ สามารถเกิดได้จากพันธุกรรมที่มีเนื้อแก้มเยอะ หรืออาจเกิดจากไขมันสะสมบนใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูอูม ดูกลม
วิธีแก้ไขคางบุ๋ม คางสั้น คางตัด
หากบุคคลใดที่เจอปัญหาเกี่ยวกับ คางบุ๋ม คางสั้น คางตัด อาจทำให้บุคคลนั้นสูญเสียความมั่นใจทางด้านภาพลักษณ์ หรือสูญเสียโอกาสทางด้านการงาน เช่นพนักงานต้อนรับ นักแสดง พนักงานขาย หรือนักร้อง รวมถึงทำให้ใบหน้าไม่ถูกต้องตามหลักของโหงวเฮ้ง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยวิธีทางการแพทย์ ดังนี้
1. ฉีดฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง เป็นการรักษาด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท กรดไฮยาลูรอนิค เข้าตรงบริเวณคาง เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคางบุ๋ม คางสั้น หรือคางตัด โดยสามารถปั้นรูปทรงคางให้เข้ากับใบหน้า ทำให้ใบหน้ามีความสมส่วน และคางดูยาวขึ้น ส่วนคางบุ๋มฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มคางตรงบริเวณที่บุ๋มให้มีความเรียบเนียน โดยการแก้ไขปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่เสียเวลาพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
2. ฉีดไขมันคาง
เป็นการแก้ไขปัญหาคางบุ๋ม โดยทางแพทย์จะทำการนำเอาไขมันจากร่างกายของผู้รับการรักษามาใช้ ซึ่งกระบวนการทำจะเริ่มจากการดูดไขมันออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก จากนั้นจะทำการเตรียม และแยกเอาเซลล์ไขมันบริสุทธิ์เพื่อนำไปฉีดเติมในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยในการปรับรูปทรงคางให้ดูเต็ม และมีความสมดุลมากขึ้น รวมถึงให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
3. ฉีดโบท็อกซ์คาง
เป็นการรักษาด้วยการฉีดสาร botulinum toxin type A เข้าตรงกล้ามเนื้อคาง Mentalis ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทำให้คางดูสั้น และคางบุ๋มที่คล้ายลูกกอล์ฟสำหรับบุคคลที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง หลังจากการฉีดจะทำให้คางที่ขรุขระมีความเรียบเนียนขึ้น คางมีความยาวขึ้นจากกล้ามเนื้อ Mentalis คลายตัวลง
4. ผ่าตัดเสริมคาง
เป็นการศัลยกรรมเพื่อปรับขนาด หรือรูปทรงของคางให้เกิดความสมดุลกับใบหน้า โดยทางแพทย์จะใช้ซิลิโคนช่วยเสริมคางที่เหมาะสมกับใบหน้า มีวิธีการผ่าตัด 2 วิธี คือ การกรีดเปิดแผลบริเวณเหงือกด้านใน กับริมฝีปากล่าง ประมาณ 2 ซม. กับการกรีดเปิดแผลบริเวณใต้คางประมาณ 1 – 3 ซม. ซึ่งวิธีการนี้เหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหา คางสั้น คางตัด หรือคางบุ๋ม ที่ทำให้ใบหน้าดูสั้น ดูกลม หรือใบหน้าไม่มีมิติ การเสริมคางจะช่วยให้ใบหน้ามีความเรียวยาว ใบหน้าดูมีมิติ และทำให้ใบหน้าดูสมส่วน
