ฟิลเลอร์หน้าผาก VS โบท็อกซ์หน้าผาก ต่างกันยังไง ? อันไหนดีกว่ากัน

ฟิลเลอร์หน้าผากและโบท็อกซ์หน้าผากเป็นสองวิธีที่หลายคนสนใจเมื่ออยากให้หน้าผากดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ และได้รูปสวยมากขึ้น แม้ทั้งคู่จะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยหรือความแบนของหน้าผากได้ แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องวิธีการทำ ผลลัพธ์ และระยะเวลาที่อยู่ได้ การเลือกให้เหมาะสมจึงสำคัญ เพราะแต่ละแบบตอบโจทย์คนละปัญหา บทความนี้จะพาไปรู้จักความต่างของฟิลเลอร์หน้าผากและโบท็อกซ์หน้าผาก เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองที่สุด

ฟิลเลอร์หน้าผาก VS โบท็อกซ์หน้าผาก

ฟิลเลอร์หน้าผาก

ฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การฉีดเติมเต็มสารประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าตรงบริเวณหน้าผาก เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ของหน้าผาก ซึ่งฟิลเลอร์จะช่วยในการปรับรูปหน้าให้มีความสมส่วน มีความสวยงาม และช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับหน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หน้าผากกว้าง หน้าผากแบน หน้าผากแคบ โหนกนูนไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย รอยร่องลึก ทำให้หน้าผากมีความเรียบเนียน เต่งตึง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังดูเปล่งปลั่ง รวมถึงช่วยในเรื่องการเสริมโหงวเฮ้งบนใบหน้า ทำให้หน้าผากมีความโดดเด่น มีความสง่ารับกับหน้า และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์

โบท็อกซ์หน้าผาก

โบท็อกซ์หน้าผาก คือ การฉีดสารชนิดหนึ่งที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะชื่อ Clostridium botulinum ซึ่งตัวของสารจะอยู่ในรูปแบบโปรตีน ที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถจับกับปลายของเส้นประสาทที่ใช้ในการควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วเข้าไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้น ที่ได้ทำการฉีดโบท็อก ไม่สามารถหดตัว และอยู่ในสภาพคลายตัว ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณหน้าผากเกิดความกระชับ ช่วยลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ช่วยปรับรูปหน้า และช่วยลดเหงื่อ โดยการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน

ฟิลเลอร์หน้าผาก กับโบท็อกซ์หน้าผาก ช่วยเรื่องอะไร

อย่างที่ทราบ ฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เข้าตรงบริเวณหน้าผาก โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่าง และเพิ่มปริมาตร นอกจากนี้สาร HA ยังมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ดังนั้นฟิลเลอร์หน้าผากจึงช่วยแก้ปัญหา ดังนี้

  • ลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนังจะมีการผลิตลดลง ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดมาจากการแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ เช่น การขมวดคิ้ว หรือการเลิกคิ้ว ซึ่งฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มริ้วรอย รอยร่องลึก ทำให้ผิวหนังตรงหน้าผากมีความเรียบเนียน เต่งตึง  และช่วยลดความชัดเจนของเส้นริ้วต่าง ๆ อย่างเห็นได้ชัด
  • เติมเต็มหน้าผากที่ยุบ หรือแบน โครงสร้างใบหน้าของแต่ละคนมีความไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีหน้าผากแบน หน้าผากแคบ หน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หน้าผากกว้าง และโหนกนูนไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่มีมิติ ไม่สมส่วน และไม่สวยงาม หลังจากการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ทำให้หน้าผากดูโค้งมน และมีความอิ่มเอิบมากขึ้น และใบหน้ามีมิติมากขึ้น
  • ปรับรูปทรงหน้าผาก บางคนอยากปรับรูปหน้าให้ตรงตามหลักโหงวเฮ้งบนใบหน้า หรือต้องการให้หน้าผากมีความโหนกนูนรับกับส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น โหนกแก้ม และคาง การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยในการปั้นทรงหน้าผากให้มีความสวยงาม และได้สัดส่วนยิ่งขึ้น
  • เพิ่มความชุ่มชื้น และกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว อย่างที่ทราบสาร HA มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี จึงทำให้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณหน้าผาก ทำให้ผิวมีความอิ่มฟู และดูมีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิว ส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น และผิวมีความอ่อนเยาว์

ส่วน โบท็อกซ์หน้าผาก อย่างที่ได้กกล่าวไว้ข้างต้น เป็นการฉีดสารประเภทหนึ่งที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะชื่อ Clostridium botulinum ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษสามารถจับกับปลายของเส้นประสาทที่ใช้ในการควบคุมกล้ามเนื้อ ดังนั้นโบท็อกซ์หน้าผากจึงช่วยแก้ปัญหา ดังนี้

  • ลดเลือนริ้วรอยและรอยย่น เมื่อเรามีการขยับหน้า เช่น การเลิกคิ้ว กล้ามเนื้อ Frontalis ตรงบริเวณหน้าผากจะเกิดการหดตัว ทำให้เกิดรอยพับเป็นเส้น ๆ เมื่อเรามีการแสดงอออกทางสีหน้าเป็นประจำ ริ้วรอยจะเกิดการฝังลึก และจะกลายเป็นริ้วรอยถาวรได้ ซึ่งโบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทมายังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ชั่วคราว ทำให้ริ้วรอยที่เกิดการขยับหน้าผากเกิดการคลายตัว และดูจางลง
  • การปรับรูปทรงคิ้ว สำหรับบางคนอาจมีทรงคิ้วที่ตก โดยหลังจากการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยในการปรับระดับคิ้วให้ดูยกขึ้น และช่วยลดแรงดึงที่ทำให้คิ้วตก นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อ Frontalis ที่ยกคิ้วมีการทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ทำให้คิ้วดูยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และทำให้ดวงตาดูโต สดใสขึ้น
  • ลดขนาดหน้าผากที่กว้างมากเกินไป เมื่อทำการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยให้หน้าผากมีขนาดที่เล็กลง โดยการยกคิ้ว และบริเวณขอบหน้าผากให้สูงขึ้น จะทำพื้นที่บริเวณหน้าผากโดยรวมดูแคบลง หากมองด้วยตาเปล่า

จุดที่เหมือนกันของ ฟิลเลอร์หน้าผาก กับ โบท็อกซ์หน้าผาก

อย่างที่ทราบกัน ฟิลเลอร์หน้าผาก กับโบท็อกซ์หน้าผาก เป็นหัตถการสำหรับการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหน้าผาก ซึ่งทั้งสองวิธีมีจุดที่เหมือนกัน เช่น วัตถุประสงค์ในการฉีด เพื่อช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับหน้าผาก ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดเลือนริ้วรอย ช่วยในการปรับรูปทรง ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และใบหน้าดูสดใสขึ้น นอกจากนี้ทั้งสองวิธียังเป็นการแก้ปัญหาโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่เสียเวลาพักฟื้น สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และมีราคาใช้จ่ายที่ไม่สูง สุดท้ายทั้งสองวิธีต้องทำการฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อความแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้

ความแตกต่างของ ฟิลเลอร์หน้าผาก กับ โบท็อกซ์หน้าผาก

ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์หน้าผาก กับโบท็อกซ์หน้าผาก จะมีจุดที่คล้ายคลึงกัน แต่ทั้งสองวิธีก็มีจุดที่แตกต่างกัน ดังนี้

คุณสมบัติฟิลเลอร์หน้าผากบท็อกซ์หน้าผาก
ตัวยาที่ใช้ฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acidสารโปรตีนที่ถูกผลิตจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum
กลไกการทำงานจะเข้าไปเติมเต็มช่องว่าง และเพิ่มปริมาตร นอกจากนี้สาร HA ยังมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังมีคุณสมบัติพิเศษสามารถจับกับปลายของเส้นประสาทที่ใช้ในการควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วเข้าไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น
เหมาะกับริ้วรอยแบบไหนเหมาะสำหรับริ้วรอยแบบถาวร หรือรอยร่องลึกที่มีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจน และไขมันใต้ผิวหนังเหมาะสำหรับริ้วรอยที่มีสาเหตุมาจากการแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ เช่นการเลิกคิ้ว การขมวดคิ้ว
วัตถุประสงค์ในการฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก, เพื่อเติมเต็มหน้าผากที่ยุบ หรือแบน, เพื่อปรับรูปทรงหน้าผาก และเพิ่มความชุ่มชื้น และกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวเพื่อลดเลือนริ้วรอยที่มีสาเหตุมาจากการแสดงสีหน้า, ลดอาการเหงื่อออกมากและสามารถรักษาอาการปวดศีรษะจากความเครียด และไมเกรน
ระยะเวลาที่เริ่มเห็นผลลัพธ์จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนภายใน 1 – 2 สัปดาห์จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนภายใน 1 – 2 สัปดาห์
ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์6 – 24 เดือน4 – 6 เดือน

ฟิลเลอร์หน้าผาก กับ โบท็อกซ์หน้าผาก ฉีดร่วมกันได้ไหม

ฟิลเลอร์หน้าผาก กับโบท็อกซ์หน้าผาก สามารถฉีดร่วมกันได้ และการฉีดร่วมกันยังช่วยเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น เพราะทั้งสองวิธีมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น โบท็อกซ์จะมีการออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อ โดยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว จึงช่วยลดริ้วรอยที่มีสาเหตุมาจากการขยับซ้ำ ๆ ส่วนฟิลเลอร์จะมีการออกฤทธิ์ที่ผิวหนังชั้นลึก และบริเวณใต้ผิวหนัง โดยจะเข้าไปเติมเต็มส่วนที่เกิดการยุบตัว หรือขาดหายไป นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาบริเวณหน้าผากได้อย่างครอบคลุม และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่ก่อนจะทำการฉีดร่วมกันควรมีการปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ตรงจุด

ผลข้างเคียงระหว่าง ฟิลเลอร์หน้าผาก กับ โบท็อกซ์หน้าผาก

แม้ว่าฟิลเลอร์หน้าผาก กับโบท็อกซ์หน้าผาก เป็นวิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับหน้าผากที่มีความปลอดภัยสูง แต่หากมีการฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ หรือมีการใช้ฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หลังจากการฉีดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง อาการบวมจากรอยเข็ม แต่จะหายไปเองภายใน 2 – 3 วัน หรือหากเข็มไปโดนเส้นเลือดฝอย อาจทำให้เกิดรอยช้ำ รอยเขียวเพียงเล็กน้อย  1 – 2 สัปดาห์จะจางหาย รวมถึงอาการคัน อาการปวด และฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน เนื่องจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง แต่หากทำการฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นขาดเลือดจนถึงขั้นเนื้อตาย หรือหากอุดตันเส้นเลือดที่ไปเส้นเลี้ยงดวงตาอาจทำให้ตาบอด นอกจากนี้ยังเสี่ยงติดเชื้อ หากมีการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน และการเกิดอาการแพ้

ส่วนโบท็อกซ์ เป็นการฉีดสารเข้าตรงบริเวณกล้ามเนื้อ เพื่อยับยั้งการทำงาน ซึ่งหลังจากการฉีดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง อาการบวมจากรอยเข็ม แต่จะจางหายไปเอง และอาการปวดศีรษะเพียงเล็กน้อยในช่วง 1 – 2 วันหลังการฉีด แต่จะหายเอง รวมถึงหน้าผากดูตึง มีความหนัก และคิ้วกระดก หรือคิ้วตก แต่หากทำการฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่นหนังตาตก เนื่องจากสารมีการกระจายตัวไปยังกล้ามเนื้อที่คอยควบคุมการเปิดหนังตา

สรุป ฟิลเลอร์หน้าผาก VS โบท็อกซ์หน้าผาก

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก แตกต่างกัน ส่วนจะเลือกหัตถการประเภทไหนนั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยฟิลเลอร์เหมาะกับการเติมเต็มให้หน้าผากอิ่มและโค้งสวย ส่วนโบท็อกซ์เหมาะกับการลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อ แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 อย่างนี้ คือหัตถการที่นิยมมากในไทย และสามารถฉีดด้วยกันได้ ดังนั้นก่อนการฉีดทุกครั้งควรเลือกใช้วิธีที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดนั้นเอง