6 วิธีป้องกันริ้วรอยและรอยย่นบนหน้าผาก ที่ทำให้ผู้หญิงแก่ก่อนวัย

การเกิดริ้วรอยหรือรอยย่นบนหน้าผาก ส่งผลเสียให้กับผู้หญิงทุกคน อาจทำให้สูญเสียความมั่นใจทางด้านภาพลักษณ์ บางคนอาจจะส่งผลกระทบกับงาน ที่จำเป็นต้องใช้ภาพลักษณ์ หรือใบหน้าในการพบเจอผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในบทความนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับรวมถึงวิธีป้องกัน การเกิดริ้วรอยและรอยย่นบนหน้าผาก ปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงแก่ก่อนวัย และขาดความมั่นใจ

สาเหตุริ้วรอยและรอยย่นบนหน้าผาก เกิดจาก ?

รอยย่นที่หน้าผาก อาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย อาทิเช่น เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบ หรือเซลล์ที่อยู่ภายในร่างกายมีการทำงานที่ไม่เป็นปกติ อย่างการผลิตคอลลาเจน หรือสารอีลาสติน ที่มีการผลิตที่น้อยลง ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าผากขาดความยืดหยุ่น จนเกิดรอยย่น นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้น ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดรอยย่นแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกอย่างอื่นอีก อาทิเช่น

  • การแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ การแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ หรือเป็นเวลานาน อย่าง การขมวดคิ้ว การยิ้ม และการหัวเราะ เป็นต้น ทำให้กล้ามเนื้อตรงบริเวณใบหน้าเกิดการหดตัวเป็นเวลานานๆ ซ้ำๆ จนทำให้เกิดรอยพับที่ผิวหนังบนหน้า และเกิดการสะสมเป็นรอยลึกจนเห็นได้ชัด
  • แสงแดด เนื่องจากแสงแดด มีรังสี UV ที่เป็นปัจจัยคอยทำร้ายคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ผิวหนังขาดความสมดุล และทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวหนังเกิดรอยย่นและเกิดริ้วรอย
  • การใช้สายตาดูโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน กรดูโทรศัพท์เป็นเวลานาน ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่สายตา แต่ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากมีการหดเกร็งที่เกิดจากการเพ่งสายตา ทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผากได้
  • การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยย่นบนผิวหน้า เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมีที่คอยทำร้ายเซลล์ผิวให้เกิดความเสียหาย และยิ่งหากมีการสูบบุหรี่เป็นประจำก็จะทำให้มีรอยย่นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประสมของแอลกอฮอล์ และสารกันเสีย โดยส่งผลให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง ผิวแห้ง ซึ่งผิวแห้งเป็นบ่อเกิดของปัญหาริ้วรอย และรอยย่นได้
  • การขาดสารอาหาร การที่ร่างกายขาดสารบางอย่าง อาทิเช่น วิตามินซี วิตามินอี และกรดอะมิโน จึงมีส่วนทำให้ผิวหนังเกิดความอ่อนแอ และทำให้เกิดรอยย่นบนผิวหนังหรือบริเวณหน้าผากได้

รอยย่นบนหน้าผาก พบมากในใคร ?

คำถามที่ว่า “รอยย่นบนหน้าผาก พบมากในใคร ?” คำตอบคือ รอยย่นบนหน้าผากสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากการเกิดรอยย่นหรือริ้วรอยมีได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น การถ่ายทอดทางพันธุกรรม และพฤติกรรมในการใช้ชีวิต ซึ่งรวมไปถึงสภาพแวดล้อม แต่ถ้าพบมากสุด คงจะเป็นบุคคลที่มีอายุมาก เพราะเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ผิวหนังจะเกิดการสูญเสียสารอีลาสตินและคอลลาเจน ทำให้ให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นจนเกิดรอยย่นหรือริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้ง่าย

หน้าผาก กับโหงวเฮ้งผู้หญิง

โหงวเฮ้ง เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งของจีน ที่ใช้ในการทำนายถึงลักษณะของร่างกาย ที่อาจจะบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยใจคอ ครอบครัว ฐานะ การงาน และการเงิน โดยผู้หญิงที่มีใบหน้า 3 สัดส่วน เท่ากันตามแบบฉบับ Golden Ratio หน้าผากกว้างโหนกนูน โค้งมน เนียนสวย คิ้วเรียงสวยเป็นระเบียบ ริมฝีปากอวบอิ่ม ปลายคางมีความโค้งมน ซึ่งตามศาสตร์โหงวเฮ้งเชื่อว่า จะเป็นผู้หญิงที่มีวาสนาดี ช่วยส่งเสริมให้ชีวิตสมบูรณ์ และอยู่อย่างสุขสบาย แต่หากผู้หญิงมีหน้าผากเป็นรอยย่น ไม่เรียบเนียน และมีรอยบุ๋ม จะถือว่าเป็นคนที่จะเจอแต่โชคร้าย ต้องเจอแต่อุบัติเหตุ ไม่ประสบความสำเร็จในด้านการงาน และจะขาดคนอุปถัมภ์ เพราะฉะนั้นแล้วหน้าผากจึงเป็นหนึ่งจุดสำคัญของโหงวเฮ้งบนใบหน้าที่ผู้หญิงควรให้ความสำคัญ

วิธีแก้ไขรอยย่นบนหน้าผากแบบธรรมชาติ

วิธีแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรอยย่นบนหน้าผากแบบธรรมชาติสำหรับคุณผู้หญิง อย่างที่ทราบกันหน้าผากถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญบนใบหน้า หากหน้าผากเกิดรอยย่น อาจจะทำให้คุณผู้หญิงทั้งหลายขาดความมั่นใจในตนเอง ซึ่งการรักษาแบบธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะเป็นการแก้ไขที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่อาจจะตั้งใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และต้องมีระเบียบวินัย โดยวิธีการแก้ไขแบบธรรมชาติ มีดังนี้

  • แตงกวา เป็นผักที่มีส่วนประกอบของน้ำ ร้อยละ 90 และมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นที่ผิวหนัง ลดอาการบวม และอาการอักเสบ ซึ่งรวมไปถึงช่วยในเรื่องริ้วรอย และลดการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
    วิธีการใช้คือ นำแตงกวามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นแว่น แล้วนำไปแช่ให้เย็น จากนั้นค่อยนำมาวางตรงผิวหนังที่เกิดรอยย่น หรือวางทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
  • ไข่ขาว มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหนังมีความเต่งตึง ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และช่วยลดการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
    วิธีการใช้คือ แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง แล้วนำไข่ขาวที่แยกไว้มาทาลงบริเวณผิวหนังที่เกิดรอยย่น ทาทิ้งไว้จนกว่าจะรู้สึกตึงที่ผิว แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด 
  • อะโวคาโด มีไขมันดีอยู่ในปริมาณมากที่ดีต่อผิวหนัง ซึ่งอะโวคาโดจะช่วยในการลดริ้วรอย และช่วยลดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง ยังรวมไปถึงช่วยเรื่องริ้วรอยคล้ำใต้ตาอีกด้วย
    วิธีการใช้คือ นำอะโวคาโดมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ  แล้วนำไปแปะตรงบริเวณผิวหนังที่เกิดรอยย่นหรือวางไปทั่วใบหน้า ใช้มือกดอย่างเบามือ แปะทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้ไขมันซึมลงสู่ผิวหนัง
  • น้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องการลดริ้วรอยใต้ตา และช่วยฟื้นฟูผิวหนัง รวมไปถึงช่วยในเรื่องผิวหนังที่เหี่ยวย่น
    วิธีการใช้คือ นำน้ำมันมะพร้าวมาทาบริเวณผิวหนังที่เกิดรอยย่น  แล้วใช้นิ้วนวดเบาๆ ประมาณ 10 นาที แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นมาค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด
  • แครอท มีส่วนประกอบของ วิตามิน เกลือแร่ สารเบต้าแคโรทีน สารเพกติน กรดอะมิโน เหล็ก แมงกานีส และทองแดง ซึ่งช่วยให้ผิวหนังมีความเรียบเนียน เต่งตึง และผิวหนังมีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เรื่องริ้วรอย และป้องกันการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
    วิธีการใช้คือ นำแครอทมาปลอกเปลือก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ผสมน้ำเล็กน้อย ก่อนจะทำการปั่น โดยปั่นพอให้เนื้อมีความเหนียว จากนั้นนำมาพอกไปทั่วบริเวณผิวหน้า พอกทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด
  • ใบบัวบก เป็นสมุนไพรที่คนนิยมนำมาเป็นส่วนประสอบของเครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงผิว เนื่องจากในใบบัวจะมีสารที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ในร่างกาย ซึ่งจะในเรื่องการลดริ้วรอย และป้องกันการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง                                                                                                                                                   วิธีการใช้คือ นำใบบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นค่อยนำมาปั่น กรองเอาแต่น้ำ จากนั้นนำสำลีมาชุ่มน้ำ แล้วนำไปล้างทั่วบริเวณใบหน้า พอกทิ้งไว้ 15 นาที แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด
  • การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประสมของ สารโคเอนไซม์ คิวเทน ,กรดไฮยาลูรอน,เพนทาเป๊ปไทด์ ,ซาโปนิน วิตามินเอ และเรตินอล ซึ่งจะช่วยในเรื่องการลดริ้วรอย และลดการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง

วิธีแก้ไขรอยย่นบนหน้าผากแบบเร่งด่วน

วิธีการรักษาปัญหาเกี่ยวกับรอยย่นบนหน้าผากแบบทางการแพทย์สำหรับคุณผู้หญิง จะทำให้คุณผู้หญิงหมดความยุ่งยาก เนื่องจากการรักษาด้วยทางการแพทย์จะเป็นการรักษาอย่างตรงจุด ไม่ต้องเสียเวลานาน สามารถเห็นผลได้ทันที และมีอายุอยู่ได้นานกว่าวิธีการอื่น โดยการรักษารอยย่นที่หน้าผากแบบทางการแพทย์ มีดังนี้

  • การฉีดฟิลเลอร์  (Filler) อย่างที่ทราบกัน การรักษารอยย่นที่หน้าผากด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ถือว่าเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถเห็นผลได้ทันที การฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นการรักษาโดยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าสู่บริเวณหน้าผาก ซึ่งฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก และช่วยในการปรับรูปหน้าผาก รวมไปถึงยังช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนหรือหน้าผากบุ๋ม ได้อีกด้วย
  • การฉีดโบท็อก (Botox) เป็นการรักษาโดยการฉีดสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) โดยจะฉีดเข้าตรงบริเวณหน้าผาก โดยโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราว และทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งตัว ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณหน้าผากเกิดความกระชับ จึงทำให้ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากได้ ซึ่งวิธีนี้ก็จะเห็นผลทันทีหลังรับการฉีดโบท็อก

วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยหรือรอยย่นบนหน้าผาก

วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอย หรือรอยย่นบนหน้าผากสำหรับผู้หญิง มีมากมายหลายวิธีดังนี้

  • การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือครีมกันแดด ที่มี SPF 30  + +  เพื่อป้องกันแสงแดด เนื่องจากในแสงแดด มีรังสี UV ที่คอยทำร้ายคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น และผิวหนังขาดความยืดหยุ่น ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
  • การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ อาทิเช่น วิตามินซี วิตามินอี และสารเรตินอล อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยในเรื่องการชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิวหนังได้
  • การดื่มน้ำในปริมาณตามที่ร่างกายต้องการ น้ำจะช่วยให้ผิวหนังเกิดความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและลดการเกิดริ้วรอยหรือรอยเหี่ยวย่นได้
  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรจะรับประทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ และควรรับประทานผัก ผลไม้ ที่มีส่วนประสมของแอนติออกซิแดนท์ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และกรดไขมันโอเมก้า 3 เพื่อช่วยในการบำรุงผิว ชะลอการเกิดริ้วรอยได้
  • การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนดึก หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้ร่างกายเกิดการอ่อนเพลีย และทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผิวพรรณไม่ผ่องใส และผิวหนังเกิดริ้วรอยได้ ดังนั้นเพื่อให้ผิวหนังได้มีการฟื้นฟู ควรจะนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดการสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมีที่คอยทำร้ายเซลล์ผิวให้เกิดความเสียหาย และยิ่งหากมีการสูบบุหรี่เป็นประจำก็จะทำให้มีรอยย่นเพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย

สรุป

อย่างที่ทราบกัน “หน้าผาก” ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญบนใบหน้าของผู้หญิง ซึ่งหากผิวหนังบนใบหน้าเกิดริ้วรอยหรือรอยย่น อาจจะส่งผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน ที่อาจทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือ หรือด้านภาพลักษณ์ ที่อาจจะทำให้สูญเสียความมั่นใจ ซึ่งรวมไปถึงด้านโหงวเฮ้งที่อาจจะทำให้ถูกมองว่ามีบุคลิกที่ไม่ดี แต่ในปัจุบันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ เราทุกคนสามารถรักษารอยย่นบริเวณหน้าผากได้และยังเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีแบบไม่ต้องรอเวลา หรือใครที่ยังไม่พบปัญหานี้ก็ยังสามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดได้ อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ ก็ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทาง หมอส้ม หมอเกรซ ทีมแพทย์จาก Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย