หน้าผากคล้ำ สีไม่เท่ากัน แก้ไขอย่างไร ? พร้อมวิธีกู้คืนสีผิวให้เท่ากัน

หน้าผากคล้ำ สีไม่เท่ากัน แก้ไขอย่างไร

หน้าผากคล้ำ หรือมีสีที่ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภาพลักษณ์ ที่ทำให้เสียความมั่นใจ หรือทางด้านการงาน ที่ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ แต่ปัญหาเหล่านี้จะจบด้วยการอ่านบทความฉบับนี้ เนื่องจากบทความฉบับนี้ได้นำวิธีการรักษาทั้งแบบธรรมชาติ และแบบทางการแพทย์ อัปเดตล่าสุด มาฝากกับทุกท่าน

หน้าผากคล้ำ สีไม่เท่ากัน

สาเหตุของหน้าผากคล้ำ สีไม่เท่ากัน

หน้าผากคล้ำ สีไม่เท่ากัน อาจจะมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะมาจากปัจจัยภายในหรือปัจจัยภายนอก ที่อาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังบริเวณหน้าผาก ซึ่งมีสาเหตุจากปัจจัยดังนี้

  • พันธุกรรม สีผิวไม่สม่ำเสมอ สามารถส่งผ่านได้ทางพันธุกรรม ยิ่งหากมีพ่อแม่ หรือบุคคลภายในครอบครัว มีสีผิวที่คล้ำ หรือมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ก็อาจจะทำให้ได้มีโอกาสเป็นได้มากกว่าคนปกติ
  • ฮอร์โมน ฮอร์โมนก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวหนังตรงบริเวณหน้าผาก มีสีที่ไม่เท่ากัน อย่างในเพศหญิงมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่สามารถส่งผลต่อสีผิว หากเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะเห็นได้ชัดในช่วงที่มีประจำเดือน หรือตอนตั้งครรภ์
  • อายุ เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบภายในร่างกายมีความเสื่อมลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดการสูญเสียสารอีลาสติน และคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าผาก เกิดความหมองคล้ำ สีผิวไม่เท่ากัน ผิวหนังเกิดริ้วรอย ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อย เป็นต้น
  • แสงแดด ถือว่าเป็นปัจจัยที่คอยทำลายผิว เนื่องจากในแสงแดด มีรังสี UV ที่จะคอยเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ขึ้นมามากเกินความจำเป็น เพื่อเป็นการป้องกันผิวหนังไม่ให้รับแสงแดด หรือรังสี UV มากเกินไป ส่งผลให้ผิวหนังคล้ำขึ้น และสีผิวที่ไม่เท่ากัน
  • รอยสิว หลังจากการเกิดสิว มักจะมีการทิ้งรอยดำ หรือรอยแดงไว้บนผิวหนัง ซึ่งอาจส่งผลให้สีผิวบริเวณนั้นดูไม่เท่ากัน
  • ปัญหาผิวหนัง ปัญหาผิวหนังไม่ว่าจะเป็นการเกิดฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ สามารถทำให้ผิวหนังมีสีที่ไม่เท่ากัน 
  • ความเครียด เนื่องจากเมื่อคนเราเกิดความเครียด ร่างกายจะเกิดการหลั่งฮอร์โมน ที่มีชื่อว่า ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่ส่งผลให้ต่อมไขมันเกิดการผลิตไขมันออกมามากเกินไป จนเป็นสาเหตุของการเกิดสิว และจุดด่างดำ จนอาจเป็นสาเหตุให้ผิวหนังมีสีที่ไม่เท่ากัน
  • การสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารนิโคติน ที่จะคอยทำลายอีลาสติน และคอลลาเจน ที่อยู่ในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังขาดออกซิเจน ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความหมองคล้ำ สีผิวไม่เท่ากัน รูขุมขนขาดความกระชับ และผิวหนังเกิดความแห้งกร้าน เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะสาเหตุอะไร ถ้าสิ่งนั้นเข้าไปทำลายอีลาสตินและคอลลาเจน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิด หน้าผากคล้ำหรือสีผิวที่ไม่เท่ากันได้

หน้าผากคล้ำ ส่งผลอะไรบ้าง

หน้าผาก ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของใบหน้า ซึ่งหากหน้าผากที่เกิดปัญหาสีผิวไม่เท่ากัน เป็นการสร้างปัญหาให้กับใครหลายคน และรวมไปถึงยังสร้างผลกระทบในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพลักษณ์ ที่จะทำให้สูญเสียความมั่นใจจนไม่กล้าพบปะผู้คน หรือออกงานสังคม ขาดความน่าเชื่อถือในด้านการงาน รวมไปถึงหากมีสีผิวที่ไม่เท่ากัน อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ อาทิเช่น การเกิดโรคผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งอาจรวมไปถึงการเสียสุขภาพจิต ที่รู้สึกแย่กับภาพลักษณ์ สุดท้ายการที่บุคคลนั้นมีสีผิวไม่เท่ากัน หรือผิวหนังที่หมองคล้ำ ตามโหงวเฮ้งใบหน้าของจีน ถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่มีราศี และชีวิตมีแต่ความทุกข์

แก้ไขหน้าผากคล้ำด้วยวิธีธรรมชาติ

การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีธรรมชาติ สามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่ต้องอาศัยระยะเวลาที่นาน และการทำที่สม่ำเสมอจึงจะทำให้เห็นผลลัพธ์ ซึ่งวิธีการแก้ไขหน้าผากคล้ำ สีผิวบนใบหน้าไม่เท่ากันด้วยวิธีธรรมชาติ มีดังนี้

  • มะเขือเทศ มีสารอาหารทั้งวิตามิน ธาตุต่าง ๆ และสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) อย่างไลโคปีน ที่จะช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
    โดยวิธีการใช้  นำมะเขือเทศมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นแว่น แล้วนำมาวางบนบริเวณผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที
  • มะขามเปียก+นม+น้ำผึ้ง มะขามมีกรด AHA และนมมีกรดแลคติก ซึ่งกรดทั้งสองตัว จะช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส
    โดยวิธีการใช้ นำมะขาม 1 กำมือ เอาเฉพาะเนื้อมาล้างให้สะอาด ผสมกับนมสด 2 ช้อนโต๊ะ ขยำให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยผ้าขาว เพื่อแยกกาก จากนั้นใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นก็ล้างน้ำ
  • แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลมีกรด AHA จะช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส
    โดยวิธีการใช้ นำแอปเปิ้ลสด มาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ก่อนจะนำมาลงบนผิวหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที 
  • ผงขมิ้น กับนมสด ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ซึ่งขมิ้น กับนมสด จะช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส และช่วยในเรื่องการขจัดเซลล์ ส่งผลให้สีผิวมีความเท่ากัน
    โดยวิธีการใช้ นำผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ และนมสด 3/4 ถ้วย มาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกตรงบริเวณผิวหน้า พอกทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
  • มะนาว กับนมสด มะนาวมีกรด AHA ซึ่งจะช่วยในเรื่องการขจัดเซลล์ผิว ทำให้สีผิวมีความเท่ากัน และยังทำให้ผิวหนังมีความกระจ่างใส
    โดยวิธีการใช้ นำมะนาวมาคั้นให้ได้น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำนมสด 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาพอกลงบนผิวหน้า เป็นเวลา 15 นาที  ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • โยเกิร์ต กับน้ำผึ้ง  โยเกิร์ตจะช่วยในเรื่องการปรับปรุงสภาพของผิวหนัง และยังช่วยในเรื่องสีผิวที่ไม่เท่ากัน
    โดยวิธีการใช้ นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปพอกทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ไข่ขาว เนื่องจากในไข่ขาวมีโปรตีนสูง และมีสรรพคุณที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นในเรื่องการผลิตเซลล์ผิวใหม่อีกด้วย
  • โดยวิธีการใช้ นำไข่ขาวมาตีจนขึ้นฟู แล้วนำมาพอกทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด

แก้ไขหน้าผากคล้ำด้วยวิธีทางการแพทย์

1. SCULPTRA

เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิวหนัง โดยสารตัวนั้นมีชื่อว่า Poly-L-Lactic acid (PLLA) ซึ่งสารตัวนี้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย Sculptra ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) และยังได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลก ว่ามีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย โดย Sculptra จะทำหน้าที่ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ซึ่งจะทำให้ผิวหนังเกิดความกระชับ เรียบเนียน ลดริ้วรอย และยังช่วยทำให้ผิวหนังมีความกระจ่างใสอีกด้วย

2. การยิงเลเซอร์

เป็นการรักษาโดยการยิงเลเซอร์ลงสู่ผิวหนัง ซึ่งเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานินที่มีการผลิตผิดปกติ จึงทำให้ผิวหนังที่เกิดปัญหา มีความกระจ่างใสมากขึ้น และยังช่วยในการปรับสภาพสีผิวให้มีสีที่เท่ากัน

3. ฉีดเมโสหน้าใส

เป็นการรักษาด้วยการฉีดวิตามิน หรือสารบำรุงเข้าสู่ผิวหนัง โดยสารที่ทำการฉีดเข้าผิวหนัง จะช่วยในเรื่องการบำรุง และช่วยฟื้นฟูผิวหนังที่มีความเสื่อม ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น และทำให้ผิวหนังมีความกระจ่างใสมากขึ้น

วิธีป้องกันหน้าผากคล้ำ หรือผิวหน้าที่สีไม่เท่ากัน

การที่หน้าผากหรือผิวหน้ามีสีที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้บุคคลนั้นอาจสูญเสียความมั่นใจด้านภาพลักษณ์ หรืออาจขาดความน่าเชื่อถือในด้านการงาน เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียที่ตามมา คนส่วนใหญ่จึงควรรู้จักวิธีป้องกันไม่ให้หน้าผากคล้ำ หรือผิวหน้ามีสีไม่เท่ากัน ซึ่งมีวิธีการป้องกันดังนี้

  • การพักผ่อนให้เพียงพอ ขณะที่ร่างกายมีการพักผ่อน ระบบภายในจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และการนอนจะช่วยในเรื่องการปรับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และไม่เกิดริ้วรอย
  • การดื่มน้ำเยอะๆ  การดื่มน้ำเยอะ ณ ที่นี้คือการดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่ร่างกายต้องการ ซึ่งจะช่วยในการปรับสภาพผิวหนังให้ดูกระจ่างใส และช่วยให้ผิวหนังเกิดความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน
  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรรับประทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ และควรรับประทานผักและผลไม้ ที่มีส่วนประสมของแอนติออกซิแดนท์ อาทิเช่น อะโวคาโด แตงกวา กล้วย มะละกอ องุ่นแดง ฟักทอง เป็นต้น
  • การหลีกเลี่ยงแสงแดด อย่างที่ทราบกันว่าแสงแดดถือเป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้เกิดปัญหาสีผิวไม่เท่ากัน เนื่องจากในแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ที่เป็นตัวคอยทำลายอีลาสติน และคอลลาเจนในชั้นผิว ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องโดนแสงแดดเป็นเวลานาน
  • การทาครีมกักแดด แสงแดดมีรังสี UV ที่เป็นต้นเหตุทำให้หน้าผาก หรือผิวบริเวณหน้ามีสีผิวที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นควรเลือกใช้ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง
  • เลิกสูบบุหรี่ อย่างที่รู้กันในบุหรี่มีสารที่ชื่อว่า สารนิโคติน ที่เป็นต้นเหตุให้เส้นเลือดตรงผิวหนังเกิดการตีบตัน จนทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความหมองคล้ำ ผิวหนังมีสีที่ไม่เท่ากัน เป็นต้น

สรุป

หน้าผากคล้ำ ที่มีสีผิวที่ไม่เท่ากัน มีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น การถ่ายทอดทางพันธุกรรม ฮอร์โมน หรือแสงแดด นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการใช้ชีวิต โดยการเกิดปัญหาเหล่านี้ ทำให้เกิดผลเสียที่ตามมา เช่น การขาดความมั่นใจ การขาดความน่าเชื่อถือ หรือการทำให้โหงวเฮ้งบนใบหน้าไม่ดี และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เราสามารถป้องกันได้ก่อน หรือหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ก็สามารถรักษาได้ด้วยวิธีแบบธรรมชาติ และแบบทางแพทย์ที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว