โปรแกรมสารกระตุ้น Collagaen
ฟื้นฟูเซลล์ผิวและชะลอการเสื่อมของคอลลาเจนในผิวด้วย Made
Sculptra ( สเกาตร้า )

.
SCULPTRA ทำงานอย่างไร ?
SCULPTRA ถูกผสมด้วย Sterile Water ถูกฉีดในผิวหนังชั้นลึก Subcutaneous ผิวจะดูเติมเต็มทันทีหลังการฉีด SCULPTRA เนื่องจากปริมาตรน้ำที่ฉีดเข้าไป หลังจากฉีด 2-3 วัน น้ำและส่วนประกอบต่างๆจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยเหลือเพียงแค่อนุภาคของ SCULPTRA ทำให้อาจจะเห็นร่องลึก ริ้วรอยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม SCULPTRA จะเริ่มกระตุ้นผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยดึงเซลล์ Macrophage มาล้อมรอบของอนุภาคของ SCULPTRA จำนวนมาก และมีการส่งสัญญาณให้เซลล์ Fibroblast เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น
โดย Fibroblast เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง จึงทำให้ผิวมีความแข็งแรง และกระชับ เมื่อเวลาผ่านไป อนุภาคของ SCULPTRA จะค่อยๆหายไป เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่มาสะสมแทน และ ฟื้นฟูความแข็งแรงโครงสร้างผิวหนังในระยะยาว ช่วยยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูคุณภาพผิวยาวนาน 25 เดือน และเป็นการกระตุ้นและการสร้างคอลลาเจน Type 1 SCULPTRA สามารถฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อย ขาด Volume ช่วยทำให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์มากขึ้น
SCULPTRA เหมาะกับใคร ?
การฉีด SCULPTRA เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดซึ่งเกิดขึ้นตามวัย เพราะ SCULPTRA เป็นอนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA-SCA)ที่เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้นรวมถึงฟื้นฟูโครงสร้างภายในชั้นลึกของผิวเพื่อให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวดูยกกระชับขึ้น ผิวดูแน้นอิ่มฟู และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพร้อมปรับปรุงคุณภาพของผิวให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือว่า SCULPTRA ตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเหมาะมาก ๆ กับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน เพราะจากการวิจัยพบว่า SCULPTRA สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ยาวนานถึง 2 ปี ซึ่งก็เป็นที่พึงพอใจกับคนไข้ที่ฉีดไปเป็นอย่างมากค่ะ
SCULPTRA เห็นผลทันทีหรือไม่ ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่ ?
ผลลัพธ์หลังการรักษาด้วย SCULPTRA จะยังไม่สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง หน้าจะดูไม่แข็งแต่ให้ความเป็นธรรมชาติมาก เพราะอนุภาคของ SCULPTRA หรือสาร Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) จะค่อยๆเข้าไปทำปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึกและเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวของตัวเองให้เพิ่มขึ้น ทำให้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการฉีดไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ปี
ฉีด SCULPTRA กี่ครั้ง และควรเว้นระยะห่างกี่สัปดาห์ ?
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมาก แนะนำฉีดต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง โดยผลลัพธ์หลังการฉีด SCULPTRA จะค่อย ๆ เห็นผลที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยตามผลการวิจัย SCULPTRA จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen Type 1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่ง Collagen type 1 เป็นคอลลาเจนตัวที่ผิวของเราต้องการมากที่สุดด้วยโดยทั่วไปควรจะทำการฉีด 2-3 ครั้ง โดยสามารถเว้นใระยะห่างในการฉีดครั้งถัดไปทุกๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ฉีด SCULPTRA อันตรายไหม ?
อาการทั่วไปหลังการฉีดในช่วง 1-2 วันแรก แล้วจะหายไปเองจะมีเพียงอาการบวม แดง ช้ำ หรือมีอาการปวดเล็กน้อย ผลข้างเคียงอื่น ๆ ส่วนมากก็จะไม่ได้รุนแรงอะไร แต่หากหลังจากฉีดไปแล้วอาจจะคลำเจอตุ่มนูนหรือก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถทำตามที่คุณหมอแนะนำคือให้เน้นนวดบริเวณที่ฉีด SCULPTRA มา เพื่อให้อนุภาคของสารที่ฉีดไม่ไปเกาะกลุ่มกันเป็นก้อน นอกจากนี้ SCULPTRA ยังถือเป็น Collagen biostimulator ตัวแรกของโลก และตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US-FDA ยิ่งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยต่อร่างกายของคนไข้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
Juvelook (จูวีลุค)

.
Juvelook ช่วยเรื่องอะไร ?
- ช่วยฟื้นฟูผิวหนังอย่างเร่งด่วน โดยปัญหาผิวจะเกิดจากมลภาวะ และสารพิษ
- ช่วยปกป้อง และป้องกันการเกิดริ้วรอย โดยเฉพาะริ้วรอยที่มีขนาดเล็ก
- ช่วยในการปรับขนาดรูขุมขนให้มีขนาดที่เล็กลง มีความกระชับ และช่วยปรับผิวหนังให้มีความเรียบเนียน
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูสุขภาพดี และดูอิ่มน้ำ
- ช่วยชะลอความแก่ของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยลดรอยแดง รอยดำ และรอยแผลที่เกิดจากสิว ให้มีความจางลง
- ช่วยให้ผิวหนังมีความแน่น และช่วยยกกระชับผิวหนังให้มีความเต่งตึงยิ่งขึ้น
- ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างไฟโบรบลาส และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน
Juvelook เหมาะกับใคร ?
- บุคคลที่มีปัญหาเรื่องของรูขุมขน ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิว หรือรูขุมขนกว้าง
- บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวผิวหนังที่เกิดความหย่อนคล้อย ที่มีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- บุคคลที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยร่องลึก รอยร่องตื้น ริ้วรอยตรงบริเวณรอบดวงตา ร่องน้ำตา รูขุมขนกว้าง และรอยหลุมสิว
- บุคคลที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวหนัง มีความอิ่มฟู และต้องการให้ใบหน้าดูมีมิติ
- บุคคลที่มีสีผิวดูไม่สม่ำเสมอ และผิวหนังไม่มีความเรียบเนียน
- บุคคลที่มีผิวหนังหยาบกร้าน มีความแห้งกร้าน ผิวหน้าลอก และผิวหนังขาดความสมดุล
Juvelook ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?
- บริเวณรอบดวงตา
- บริเวณเปลือกตา
- บริเวณหางตา (รอยตีนกา)
- บริเวณร่องน้ำตา
- บริเวณคอเพื่อแก้รอยพับที่คอ
- บริเวณหน้าผาก
- บริเวณหัวเข่า
- บริเวณข้อพับ
- บริเวณข้อศอก
Juvelook อยู่ได้นานไหม ?
Juvelook สามารถคงผลลัพธ์ได้นานถึง 2 ปี ทั้งนี้การคงอยู่ของผลลัพธ์มักจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่นการดูแลตัวเองหลังจากการทำ ปัญหาของผิวหนัง และความแตกต่างของสภาพผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งถ้าอยากให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง ควรทำการฉีดทุก ๆ 6 เดือน หรือทุก 1 ปี
Juvelook ต้องฉีดกี่ครั้ง ?
การฉีด Juvelook เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ส่วนใหญ่จึงนิยมฉีด 2 – 3ครั้ง โดยจะฉีดอย่างต่อเนื่อง 3 ครั้ง ต่อเดือน เพื่อให้ตัวยาที่ฉีดสามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินได้อย่างสม่ำเสมอ หลังจากนั้นก็ให้ฉีดทุก 6 – 12 เดือน เพื่อให้คงสภาพผิวหนังให้สุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง Juvelook สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี
Juvelook สามารถทำควบคู่ไปกับหัตถการประเภทอื่นได้หรือไม่ ?
Juvelook สามารถทำควบคู่ไปกับหัตถการประเภทอื่นได้ แต่ถ้าเป็นหัตถการประเภททรีตเมนต์ หรือการทำเลเซอร์ ควรทำหลังจากทำ Juvelook หรือถ้าใครต้องการทำหัตถการประเภทฉีด ควรจะทำการฉีดกันในคนละจุด รวมถึงต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการฉีด เพื่อความปลอดภัยกับตนเอง
HArmonyCa

.
HArmonyCA มีส่วนประกอบหลักคืออะไร ?
- Hyaluronic Acid (HA): เป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิวหนัง ช่วยเติมเต็มและยกกระชับผิวในทันทีหลังฉีด ให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียน
- Calcium Hydroxyapatite (CaHA): เป็นแร่ธาตุที่พบได้ในกระดูกและฟัน ช่วยเพิ่มความเฟิร์มของผิวหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ได้ในระยะยาว ทำให้เกิดผลที่ long lasting โดยอายุของ CaHA ตามธรรมชาติจะอยู่ได้ประมาณ 1-3 ปีก่อนสลายไปตามธรรมชาติ
HArmonyCA ช่วยเรื่องอะไร ? และเหมาะกับใคร ?
HArmonyCA เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและยกกระชับใบหน้าแบบครบวงจร โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือขาดความยืดหยุ่น ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มผู้ที่เหมาะสมได้ดังนี้
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการผิวอิ่มฟูทันทีจาก Hyaluronic Acid (HA) และต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาวด้วย Calcium Hydroxyapatite (CaHA)
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ HArmonyCA ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและมีชีวิตชีวามากขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ผิวบางหรือขาดความหนาแน่นของผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวบางลงจากวัยหรือปัจจัยภายนอก เช่น การโดนแสงแดดหรือมลภาวะ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวขาดคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีการสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาที่ตรงกับสภาพผิวและความต้องการของผู้ที่เข้ารับบริการ
HArmonyCA อยู่ได้นานไหม ?
HArmonyCA ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนาน 12-18 เดือน มีการกระจายตัวสม่ำเสมอ และมี Lidocaine (ลิโดเคน) ที่ช่วยลดความเจ็บปวด ซึ่งถือว่านานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปที่มักอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ ความยาวนานของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
โดยหลังจากที่ฉีดในสัปดาห์แรก จะพบว่า HArmonyCa ช่วยทำให้เพิ่มในแง่ของลิฟท์ติ้งได้ดี และเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์พบว่า ผิวยังคงยกอยู่ในระยะยาวซึ่งแตกต่างกับผลิตภัณฑ์อื่นในท้องตลาด
HArmonyCA 1 กล่องมีกี่ CC ?
HArmonyCa ออกแบบมาในรูปแบบของ Prefill syringe พร้อมใช้ ช่วยลดระยะเวลาของการผสมและง่ายต่อการใช้งาน โดยหนึ่งกล่องจะมี 2 Syringes (1Syringe = 1.25 cc) โดยมี lidocaine ยาชาผสมในตัว
ทำไมต้องฉีด HArmonyCa ?
เมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างผิวหนัง ในทุกชั้น ผิวชั้นบนบางลง , ชั้นไขมันบางลง ,จำนวน Fibroblast (เซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน เส้นใยอิลาสติน และกรดไฮยาลูโรนิค) ลดลง ส่งผลทำให้การสร้างคอลลาเจนลดลง นำไปสู่ความเสื่อมสภาพของผิวหน้า หลวม หย่อน ไม่กระชับ ซึ่งคอลลาเจน ถือว่ามีบทบาทที่สำคัญ หากมีปริมาณที่ลดลงเมื่อายุมากขึ้น สิ่งที่ตามมา คือ ผิวหนังที่บางลง ทำให้เกิดริ้วรอย
ดังนั้น ปัจจุบันจึง พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น กระชับ เฟิร์ม
ซึ่ง HArmonyCa เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่มอบผลลัพธ์ Duo Effects ในตัวเดียว โดยผสาน 2 สารธรรมชาติ ด้วยกัน คือ 1. HA (Hyaluronic acid) คลิกศึกษาเพิ่มเติม 2. CaHA (Calcium Hydroxyapatite)
CaHA (Calcium Hydroxyapatite) หนึ่งในองค์ประกอบหลักของ HArmonyCa เป็นสารที่มาจากธรรมชาติ พบได้ตามกระดูก ฟัน เล็บ ในร่างกายของเรา ซึ่งมีการวิจัยแล้วพบว่า ช่วยในการกระตุ้น Fibroblast ทำให้เกิดการสร้าง คอลลาเจน หรือ Neocollagensis เพิ่มความกระชับของใบหน้า ซึ่งการกระตุ้นนี้ ไม่เหมือนกับการกระตุ้นจากสิ่งแปลกปลอมแบบสาร Polymer แต่เป็นการกระตุ้นที่เสมือนธรรมชาติ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ natural look
ตัว HArmonyCa เป็น การผลิตที่อาศัย Crosslinking technology ที่เฉพาะในการผลิต (ไม่ใช่ Vycross และ Hylacross เหมือนของJuvederm) เมื่อส่องดูอนุภาพโดยกล้อง electron จะเห็นได้ว่า อนุภาคของ CaHA ใน HArmonyCa เป็นทรงกลม microsphere มีผิวเรียบ ขนาด 25-45 microns ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสม สำหรับการกระตุ้น collagen บนในหน้า และมีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอใน HA Gel
HArmonyCa มีการศึกษาเพื่อดู Injection Pain โดยดูจากค่า Osmolarity โดยมีข้อมูลงานวิจัยพบว่าสารที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายควรมี Osmolarity ใกล้เคียงกับเลือดและผนังหลอดเลือด เพื่อลดอาการเจ็บปวด ซึ่ง HArmonyCa มี Osmolarity 330 mOsm/mg อยู่ในช่วงที่แนะนำทำให้เกิดโอกาสในแง่ของการปวดที่น้อยกว่า
✓ ทุกเคสทำการฉีดโดยแพทย์ Speaker ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ ที่มีความเชี่ยวชาญ
✓ การันตีด้วยรางวัล Trainer Honorable Recognition Award 2022
✓ มั่นใจ ปลอดภัย ด้วยฟิลเลอร์แท้
✓ พร้อมให้คำปรึกษาและมีการวิเคราะห์ออกแบบปรับรูปหน้าเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด
✓ เทคนิคเฉพาะของทีมแพทย์ ที่ Mudan Pavilion Wellness Center
✓ ใส่ใจติดตามผลหลังทำหัตถการทุกเคสดูแลคุณเหมือนคนในครอบครัว
“ยืนยันจากทุกเสียงของคนไข้ถึงความมือเบา ความปราณีตของคุณหมอ”
