ฟิลเลอร์มีหลายประเภทให้เลือกใช้ตามจุดประสงค์ที่ต่างกัน โดยเฉพาะ “ฟิลเลอร์เติมเต็ม” กับ “ฟิลเลอร์งานผิว” ที่หลายคนอาจสับสนว่าต่างกันยังไง ฟิลเลอร์เติมเต็มจะเน้นแก้ปัญหาร่องลึก ปรับรูปหน้า เติมในจุดที่ต้องการวอลุ่ม เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือคาง ส่วนฟิลเลอร์งานผิวจะเน้นเรื่องความชุ่มชื้น กระจ่างใส และฟื้นฟูสภาพผิวจากภายใน เหมาะกับคนที่อยากให้ผิวดูอิ่มฟูแบบธรรมชาติ บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างของทั้งสองแบบ เพื่อช่วยให้เลือกใช้ได้เหมาะกับความต้องการมากที่สุด
ฟิลเลอร์เติมเต็ม VS ฟิลเลอร์งานผิว
- ฟิลเลอร์เติมเต็ม คืออะไร ?
- ฟิลเลอร์งานผิว คืออะไร ?
- ฟิลเลอร์เติมเต็ม & ฟิลเลอร์งานผิว ช่วยเรื่องอะไร
- จุดที่เหมือนกันระหว่าง ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว
- ความแตกต่างระหว่าง ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว
- ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว ฉีดร่วมกันได้ไหม
- ผลข้างเคียงระหว่าง ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว
- สรุป ฟิลเลอร์เติมเต็ม VS ฟิลเลอร์งานผิว
ฟิลเลอร์เติมเต็ม คืออะไร ?

ฟิลเลอร์เติมเต็ม (Filler) คือสารเติมเต็มที่นิยมใช้ในการฉีดเข้าตรงบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยในการเติมเต็มร่องลึก และริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวหนังบนใบหน้ามีความเรียบเนียน มีความอิ่มฟู รวมถึงทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย โดยฟิลเลอร์มีส่วนประกอบหลักของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย ตัวอย่างฟิลเลอร์เติมเต็มที่ผ่าน อย. ไทย เช่น Juvederm รุ่น Voluma, Restylane รุ่น Volyme และ Belotero รุ่น Volume เป็นต้น
ฟิลเลอร์งานผิว คืออะไร ?

ฟิลเลอร์งานผิว (Skin Booster) คือ การฉีดสารที่มีส่วนประกอบหลักเป็น Hyaluronic Acid เข้าสู่ชั้นผิว โดย HA ประเภทนี้จะมีโมเลกุลขนาดเล็ก มีเนื้อสัมผัสที่เบาบาง และมีคุณสมบัติที่ช่วยในการกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มน้ำ และช่วยเติมเต็มผิวตรงบริเวณต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวขึ้นมาใหม่ และช่วยปรับสภาพผิวให้มีความเรียบเนียน การฉีดฟิลเลอร์งานผิวจึงเหมาะกับบุคคลที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ต้องการฟื้นฟูผิวที่มีความแห้งกร้าน และบุคคลที่ต้องการให้ผิวมีความเรียบเนียน และมีความกระจ่างใส ตัวอย่างเช่น Juvederm รุ่น Volite, Restylane รุ่น Vital, Restylane รุ่น Vital Light และ Juvelook เป็นต้น
ฟิลเลอร์เติมเต็ม & ฟิลเลอร์งานผิว ช่วยเรื่องอะไร
อย่างที่ทราบฟิลเลอร์เติมเต็ม และฟิลเลอร์งานผิว มีส่วนประกอบหลัก คือ ไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำได้ดี สำหรับฟิลเลอร์เติมเต็มจะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง เรียบเนียน และช่วยเติมเต็มริ้วรอย รอยร่องลึก ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หน้าผาก ร่องใต้ตา เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยในการปรับรูปหน้าให้มีมิติมากขึ้น และช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด เช่น เติมใต้ตาที่ลึกคล้ำ แก้ปัญหาถุงใต้ตาให้มีความเรียบเนียน ปรับรูปทรงริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม แก้ปัญหาหลุมสิวให้มีความตื้นขึ้น รวมถึงทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ฟิลเลอร์เติมเต็มนิยมฉีดตรงบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม คาง ขมับ โหนกแก้ม หน้าผาก แก้ม และบริเวณหลังมือ
ส่วนฟิลเลอร์งานผิว หรือ Skin Booster ฟิลเลอร์จะมีโมเลกุลขนาดเล็ก และมีเนื้อสัมผัสที่เบาบาง จึงเหมาะกับการฉีดตรงบริเวณผิวหนังชั้นตื้น ๆ เพื่อทำการฟื้นฟูผิว จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยในการปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ ช่วยลดจุดด่างดำ และช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผิวดูสดใส และทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัย ฟิลเลอร์งานผิวนิยมฉีดตรงบริเวณทั่วใบหน้า หน้าผาก รอบดวงตา รอบปาก และลำคอ
จุดที่เหมือนกันระหว่าง ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว
จุดที่เหมือนกันอย่างชัดเจนที่สุด ระหว่างฟิลเลอร์เติมเต็มกับฟิลเลอร์งานผิว นั้นคือ ส่วนประกอบหลัก ไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้ดี มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ฟิลเลอร์ทั้งสองชนิดยังมีกลไกการทำงานที่เหมือนกัน คือการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง และมีความยืดหยุ่น รวมถึงผลลัพธ์ที่คล้ายกัน ไม่ว่าจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู และอิ่มน้ำมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว
คุณสมบัติ | ฟิลเลอร์เติมเต็ม (Dermal Filler) | ฟิลเลอร์งานผิว (Skin Booster) |
---|---|---|
ส่วนประกอบหลัก | สารไฮยาลูโรนิกชนิดความหนาแน่นสูง คงรูปได้ดี | สารไฮยาลูโรนิกชนิดโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อสัมผัสเบาบาง กระจายตัวได้ดี |
วัตถุประสงค์หลัก | เพิ่มปริมาตร ปรับรูปหน้า ยกกระชับ | ฟื้นฟูคุณภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยเล็กๆ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เพิ่มความเปล่งปลั่ง |
บริเวณที่เน้น | หน้าผาก แก้ม ริมฝีปาก กรอบหน้า จมูก | ใบหน้า ลำคอ มือ (เน้นเรื่องคุณภาพผิว) |
ผิวหนังชั้นการฉีด | ชั้นลึกของผิวหนัง | ชั้นผิวหนังแท้ |
ผลลัพธ์ที่เห็น | เห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีหลังฉีด | ค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป (เนื่องจากเป็นการบำรุงผิว) |
ระยะเวลาคงอยู่ | ประมาณ 12 – 24 เดือน (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อ) | ประมาณ 6-9 เดือน |
ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว ฉีดร่วมกันได้ไหม
เราสามารถฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิวร่วมกันได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ทั้งสองชนิดมีจุดประสงค์ของการใช้งาน และบริเวณที่ทำการฉีดแตกต่างกัน ทำให้ไม่เกิดการรบกวนการทำงานของกันและกัน แต่กลับช่วยเสริมประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว และยังให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุม ซึ่งก่อนการฉีดร่วมกับควรมีการปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้ทำการประเมินอาการก่อนทุกครั้ง
ผลข้างเคียงระหว่าง ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว
อย่างที่ทราบ ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว มีไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เป็นส่วนประกอบหลัก แต่ฟิลเลอร์เติมเต็มจะมีความหนานแน่นสูง มีความหนืด และเมื่อฉีดลงตรงบริเวณชั้นลึกของผิวหนัง ซึ่งหากมีการฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ความเชี่ยวชาญ และมีการฉีดแบบผิดวิธี อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ฟิลเลอร์เกิดการจับตัวเป็นก้อน ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่จากจุดที่ฉีด เกิดการอุดตันของเส้นเลือด เกิดอาการติดเชื้อ อาการแพ้ และเกิดการอักเสบเรื้อรัง
ส่วนฟิลเลอร์งานผิว จะมีโมเลกุลขนาดเล็ก มีเนื้อที่เบาบาง สามารถกระจายตัวได้ดี และเมื่อฉีดลงตรงบริเวณผิวหนังแท้ หากเกิดผลข้างเคียง จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูน เกิดรอยเข็มที่ชัด เกิดอาการติดเชื้อ และอาการแพ้
สรุป ฟิลเลอร์เติมเต็ม VS ฟิลเลอร์งานผิว
อย่างที่ทราบ ฟิลเลอร์เติมเต็ม กับ ฟิลเลอร์งานผิว มี Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบหลัก แต่ฟิลเลอร์ทั้งสองชนิดก็ยังมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ในการใช้ เนื้อฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ ผลข้างเคียง และผลลัพธ์ที่ได้ ดังนั้นหากบุุคคลใดต้องการเพิ่มปริมาตร และการปรับรูปหน้า รวมถึงต้องการให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้อย่างชัดเจนทันทีหลังการฉีด การฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มถือว่าเหมาะสม ส่วนบุคคลใดที่ต้องการฟื้นฟูผิว เช่น การลดริ้วรอยขนาดเล็ก เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ปรับสีผิวให้มีความเท่ากัน และต้องใหิวมีความเปล่งปลั่ง การฉีดฟิลเลอร์งานผิวเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม