โบท็อกซ์ถุงใต้ตา กำลังเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่อยากให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาพอง บวม หรือทำให้หน้าดูเหนื่อยล้า วิธีนี้ช่วยลดการเกร็งของกล้ามเนื้อใต้ตาให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด หลายคนเริ่มสนใจแต่ก็อาจกังวลว่า อันตรายไหม ซึ่งจริง ๆ แล้วหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ถือว่าปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ บทความนี้จะพาไปรู้จักว่าโบท็อกซ์ถุงใต้ตาเหมาะกับใคร ทำอย่างไร และทำไมถึงกลายเป็น ที่นิยม ในยุคนี้
Table of Contents
- โบท็อกซ์ใต้ตา ทำงานยังไง
- โบท็อกซ์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรและเหมาะกับใคร
- โบท็อกซ์ใต้ตา อันตรายไหม
- โบท็อกซ์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
โบท็อกซ์ใต้ตา ทำงานยังไง
โบท็อกซ์ใต้ตา หรือบริเวณถุงใต้ตา เป็นการรักษาด้วยการฉีดสารประเภทหนึ่ง ที่มีชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) เข้าตรงบริเวณกล้ามเนื้อตาส่วนบน ซึ่งโบท็อกซ์จะมีการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดคลายตัวชั่วคราว และทำให้กล้ามเนื้อมีการทำงานน้อยลง ดังนั้นหลังจากการฉีดจะช่วยลดการเกิดรอยพับ หรือรอยย่นของผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากการแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ ทำให้ริ้วรอย หรือรอยย่นตรงบริเวณใต้ตามีความจางลง และทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียน
โบท็อกซ์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรและเหมาะกับใคร
โบท็อกซ์ใต้ตา เป็นหัตถการที่กำลังเป็นที่นิยม จากหลักการทำงานที่กล่าวไปเบื้องต้น ที่ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว และกล้ามเนื้อมีการทำงานน้อยลง โบท็อกซ์ใต้ตาจึงช่วยในเรื่องการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรอยย่นตื้น ๆ ใต้ตา ทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียน และมีความเต่งตึงขึ้น ช่วยลดรอยตีนกาบริเวณหางตา ทำให้บริเวณรอบดวงตามีความอ่อนเยาว์ ดูสดใสขึ้น และช่วยแก้ปัญหาก้อนนูนใต้ตาขณะที่ยิ้ม หรือหยีตา (Jelly Roll) นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย
ดังนั้นโบท็อกซ์ใต้ตาจึงเหมาะกับบุคคลที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรอยย่นบริเวณใต้ตาที่มีสาเหตุมาจากการแสดงสีหน้า เช่น เวลายิ้ม หัวเราะ ขยิบตา หรือหรี่ตา รวมถึงต้องการแก้ปัญหาเรื่องรอยตีนกา นอกจากนี้ยังเหมาะกับบุคคลที่ต้องการลดถุงใต้ตา และบุคคลที่ต้องการป้องกันการเกิดริ้วรอยร่องลึกในอนาคต สุดท้ายเหมาะกับบุคคลที่ต้องการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบทันที
โบท็อกซ์ใต้ตา อันตรายไหม
โบท็อกซ์ใต้ตา เป็นหัตถการสำหรับแก้ปัญหาบริเวณใต้ตาที่มีความปลอดภัยสูง หากทำการฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความรู้เรื่องกายวิภาคของกล้ามเนื้อรอบดวงตา เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ความแม่นยำในตำแหน่งที่ฉีด และปริมาณของตัวยาที่ฉีด นอกจากนี้ตัวยาที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน แต่หากทำการฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความรู้ หรือฉีดโบท็อกซ์ที่เป็นของปลอม อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อ หรือทำให้เกิดปัญหาด้านการมองเห็นได้
โบท็อกซ์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
ยี่ห้อโบท็อกซ์สำหรับการฉีดใต้ตาที่ดี และเหมาะสม โบท็อกซ์ต้องมีความบริสุทธิ์สูง มีการกระจายตัวได้ดี และมีความแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธืที่เป็นธรรมชาติ และเพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
ตัวอย่าง ยี่ห้อโบท็อกซ์ใต้ตา มีดังนี้

Allergan
โบท็อกซ์สัญชาติอเมริกา ที่ถูกผลิตโดยบริษัท อัลเลอร์แกน ซึ่งเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียง Allergan ถือว่าเป็นโบท็อกซ์ Original เนื่องจากเป็นแบรนด์แรกที่มีการคิดค้นสารโบทูลินั่มสำหรับการลดริ้วรอย
Allergan มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ตัวยามีการกระจายตัวได้ดี และมีความแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถออกฤทธิ์ได้ตรงจุด รวมถึงมีความปลอดภัยสูง จึงเหมาะกับการฉีดเพื่อลดริ้วรอยบริเวณใต้ตา หลังจากการฉีดผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 5 – 8 เดือน

Xeomin
โบท็อกซ์สัญชาติเยอรมัน ที่ถูกผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ที่มีการใช้ XTRACT Technology™ สำหรับขั้นตอนการผลิต ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเฉพาะ Xeomin มีการใช้ 2 ขั้นตอน ในการกรองแยกส่วนประกอบของโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกจากโมเลกุล ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการดื้อนาในระยะยาว
Xeomin มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถกระจายตัวได้ดี และมีความแม่นยำ จึงเหมาะกับการฉีดเพื่อลดริ้วรอยบริเวณใต้ตา หลังจากการฉีดผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน

Nabota
โบท็อกสัญชาติเกาหลี ที่มีการนำเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง HI-PURE Technology มาใช้ Nabota จึงมีความบริสุทธิ์สูง 98.7% สามารถออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างไว และผู้ฉีดจึงมีโอกาสดื้อยาน้อย Nabota จึงเหมาะกับการฉีดบริเวณใต้ตาเพื่อลดริ้วรอย รอยตีนกา และปรับรูปหน้า หลังจากการฉีดผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4 เดือน

Aestox
โบท็อกสัญชาติเกาหลี ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% สามารถออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างไว และผู้ฉีดจึงมีโอกาสดื้อยาน้อย ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ Aestox จึงจะเหมาะกับการช่วยลดริ้วรอย หลังจากการฉีดผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน

Dysport
โบท็อกซ์สัญชาติอังกฤษ ที่ถูกผลิตโดยบริษัท Ipsen จุดเด่นของ Dysport จะมีโมเลกุลขนาดเล็ก ตัวยาจะมีการกระจายที่กว้าง ปละมีการออกฤทธิ์ได้ไว รวมถึงโอกาสการดื้อโบท็อกซ์น้อย จึงเหมาะกับการลดริ้วรอยทั่วใบหน้า หลังจากการฉีดผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน







