Skin Booster คือ ? ช่วยเรื่องอะไร ? เลือกตัวไหนดี ?

• Share on Facebook
• Email this Page
• Share on LINE

Skin Booster อีกหนึ่งในเทรนด์การดูแลผิวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการความงาม ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูสภาพผิว และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและเปล่งปลั่ง แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า Skin Booster คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง และตัวไหนที่ควรเลือกใช้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Skin Booster อย่างละเอียด พร้อมแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลผิวของคุณ เพื่อให้คุณมีผิวที่สวยงามและสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

สารบัญ Skin Booster

• Skin Booster คืออะไร ?
• Skin Booster ทำงานยังไง ?
• Skin Booster ช่วยเรื่องอะไร ?
• Skin Booster เหมาะกับใคร ?
• Skin Booster ราคาเท่าไหร่ ? แพงไหม ?
  • ตัวอย่าง Skin Booster ที่นิยมในไทย
• Skin Booster ฉีดตรงไหนได้บ้าง
• Skin Booster ทำบ่อยๆ ได้ไหม
• ผลลัพธ์ของ Skin Booster อยู่ได้นานไหม ?
• ฉีด Skin Booster เจ็บไหม ?

Skin Booster คืออะไร ?

Skin Booster หรือ สกินบูสเตอร์ คือ การฉีดสารบำรุงผิวชนิดเข้มข้น ตรงบริเวณชั้นผิวหนังชั้นกลาง (Dermis) เปรียบเสมือนการเติมอาหารให้ผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว นอกจากนี้ Skin Booster ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้กับผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูสดใสและสุขภาพดีอย่างรวดเร็ว

ประเภทของ Skin Booster

• Hyaluronic Acid (HA): ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับผิวแห้ง ขาดน้ำ
• Vitamin C: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส
• Peptides: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก
• Amino Acids: ช่วยบำรุงผิว ฟื้นฟูสภาพผิว ให้ผิวแข็งแรง
• Nucleotides: ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก

Skin Booster ทำงานยังไง ?

Skin Booster ช่วยเรื่องอะไร ?

Skin Booster มีประโยชน์หลากหลายในการดูแลและฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

• เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและดูอิ่มน้ำ
• ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ช่วยเติมเต็มร่องลึกและรอยย่น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น
• ลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และรอยเหี่ยวย่น และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น
• ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำและความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวมีสีสม่ำเสมอ
• ฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย เหมาะสำหรับผิวที่แห้งเสียจากแสงแดด มลภาวะ หรือการขาดการบำรุง
• ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและสุขภาพดี ผิวจะดูสดใสและมีสุขภาพดีมากขึ้นหลังการใช้ Skin Booster

Skin Booster เหมาะกับใคร ?

Skin Booster เหมาะสำหรับบุคคลหลากหลายกลุ่มที่ต้องการดูแลและฟื้นฟูสภาพผิว

• ผู้ที่มีผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น โดย Skin Booster จะช่วยเติมน้ำและความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและสดใสขึ้น เพราะกรดไฮยาลูโรนิกมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ดี
• ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึก โดย Skin Booster จะช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และร่องลึก ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น เพราะกรดไฮยาลูโรนิกสามารถเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
• ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำและไม่สม่ำเสมอ โดย Skin Booster จะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำและความหมองคล้ำ เพราะการเติมเต็มความชุ่มชื้นและสารบำรุงจะช่วยปรับปรุงสุขภาพผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
• ผู้ที่มีผิวเสียจากแสงแดดและมลภาวะ โดย Skin Booster จะช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากการสัมผัสแสงแดดและมลภาวะ ทำให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดีขึ้น เพราะกรดไฮยาลูโรนิกจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง
• ผู้ที่ต้องการผิวหน้าที่กระชับและยืดหยุ่น โดย Skin Booster ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น เพราะสารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการคงความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว
• ผู้ที่ต้องการเพิ่มความเปล่งปลั่งให้กับผิว โดย Skin Booster ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งและสุขภาพดีมากขึ้น เพราะการเติมความชุ่มชื้นและสารบำรุงทำให้ผิวดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
• ผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบเร่งด่วน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว เช่น ก่อนงานสำคัญหรือโอกาสพิเศษ เพราะการฉีด Skin Booster ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนภายในเวลาไม่นาน

การเลือกใช้ Skin Booster จึงเหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาผิวหลากหลายและต้องการการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การฉีด Skin Booster อาจไม่เหมาะสมสำหรับบางบุคคล เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงหรือข้อห้ามเฉพาะ ดังนี้

• ผู้ที่มีอาการแพ้กรดไฮยาลูโรนิก การฉีด Skin Booster อาจทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงในผู้ที่มีประวัติการแพ้สารนี้
• ผู้ที่มีการติดเชื้อหรือมีแผลบริเวณที่จะฉีด การฉีดในบริเวณที่มีการติดเชื้อหรือแผลอาจทำให้การติดเชื้อแย่ลงและการฟื้นตัวช้าลง
• ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema), โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) อาจทำให้การฉีดสารเติมเต็มทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรืออักเสบมากขึ้น
• ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการฉีดสารเติมเต็มในช่วงนี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์และเด็กที่กำลังให้นม
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดไหลไม่หยุดหรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือด การฉีดอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกมากขึ้นและทำให้ฟื้นตัวช้าลง

เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีด Skin Booster เพื่อให้แน่ใจว่าการฉีดจะไม่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ

Skin Booster ราคาเท่าไหร่ ? แพงไหม ?

ราคาในการฉีด Skin Booster สามารถแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของ Skin Booster ที่ใช้, ปริมาณที่ฉีด, คลินิกหรือสถานที่ที่ให้บริการ, และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการฉีด โดยทั่วไปแล้วราคาของการฉีด Skin Booster จะอยู่ในช่วง 10,000 – 30,000 บาท ต่อครั้ง ซึ่ง Skin Booster ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่คุ้มค่ากับราคา สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพผิว ลดริ้วรอย รอยแผลเป็น และความหมองคล้ำของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ สดใส และเปล่งปลั่ง

ตัวอย่าง Skin Booster ที่นิยมในไทย

Skin Booster	จำนวน	ราคา
Sculptra	10 CC	39,900
	20 CC	79,800
Belotero Revive (Skin booster)	1 CC	15,000
Restylane Vital light (Skin booster)	1 – 2 CC	15,000
Juvederm volite (Skin booster)	1 – 2 CC	15,000
Juvelook	8 CC	25,000
Rejuran	2 CC	13,000
	4 CC	26,000
	6 CC	39,000
	8 CC	52,000

Skin Booster ฉีดตรงไหนได้บ้าง

Skin Booster สามารถฉีดได้ในหลายบริเวณของใบหน้าและร่างกายเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว บริเวณที่นิยมฉีดมีดังนี้

นอกจากนี้ Skin Booster ยังสามารถฉีดได้บริเวณอื่นๆ บนร่างกายได้อีก เช่น บริเวณที่มีปัญหาผิว อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินปัญหาผิว และแนะนำบริเวณที่เหมาะสมกับการฉีด Skin Booster

Skin Booster ทำบ่อยๆ ได้ไหม

การฉีด Skin Booster สามารถทำได้บ่อยตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติแล้ว การฉีด Skin Booster มักจะแนะนำให้ทำเป็นคอร์ส โดยเริ่มแรกอาจต้องทำทุก 2-4 สัปดาห์ จำนวน 3-4 ครั้ง หลังจากนั้นสามารถทำการฉีดเพื่อรักษาผลลัพธ์ทุก 4-6 เดือน

การฉีดบ่อยเกินไปอาจไม่จำเป็นและอาจเพิ่มความเสี่ยงบางประการ เช่น รอยแดง รอยบวม หรืออาการช้ำ ซึ่งมักจะหายไปภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทำ Skin Booster เพื่อประเมินความเสี่ยง และแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทาน รวมถึงอาหารเสริมที่ทานอยู่

ผลลัพธ์ของ Skin Booster อยู่ได้นานไหม ?

ฉีด Skin Booster เจ็บไหม ?

การฉีด Skin Booster อาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างการฉีด เนื่องจากมีการใช้เข็ม แต่ความเจ็บปวดนั้นมักจะน้อยมาก ซึ่งความรู้สึกเจ็บปวดและความรู้สึกไม่สบายมักจะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ และจะหายไปหลังจากการฉีดเสร็จสิ้น